สศช.หวังจีดีพีปี62โต4% ลุ้นการเมืองหลังเลือกตั้ง ห่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว-สงครามการค้า 

ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สศช.

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยขณะนี้ฟื้นตัวชัดเจนแล้ว สำหรับปี 2562 คาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ไทยจะเติบโต 4.0% หรือในกรอบ 3.5-4.5% โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการบริโภคเอกชนที่ยังเติบโตสูงที่ 4.2% จากแรงหนุนการจ้างงานดีขึ้น อัตราการว่างงานต่ำ ราคาสินค้าเกษตรปรับดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายทั้งจากรัฐบาลและเอกชนในการหาเสียงและการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมนี้ ประเมินมีมูลค่ากว่า 2-3 หมื่นล้านบาท คิดเป็นราว 0.1-0.2% ของจีดีพี ด้านการลงทุนเอกชนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดเติบโต 4.7% จากภาคการผลิตเนื่องจากการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นตามการส่งออก การขอส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ยังเพิ่มขึ้น การลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ดำเนินการต่อเนื่องทำให้การลงทุนรัฐเติบโต 6.2% นอกจากนี้ การส่งออกคาดเติบโต 4.1% จากแรงกดดันเศรษฐกิจโลกที่อาจจะเติบโตชะลอและผลจากสงครามการค้า อย่างไรก็ตาม ผลของสงครามการค้าเริ่มเห็นต่างชาติย้ายฐานการลงทุนเข้ามาในไทยบ้างแล้ว แต่ยังต้องติดตามความชัดเจนต่อไป ขณะที่การท่องเที่ยวสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงไตรมาสแรก 2562 นี้ ทั้งปีคาดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 41 ล้านคน สร้างรายได้ 2.24 ล้านล้านบาท

คณะผู้บริหาร สศช.

นายทศพร กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจที่ สศช. ติดตามในด้านต่างประเทศ คือ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่อาจจะชะลอตัวมากกว่าคาดเป็นเรื่องที่ สศช. กลัว เพราะกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลง และอาจจะไม่ใช่การปรับลงแค่ครั้งแรกหรือครั้งเดียวในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและบรรยากาศการค้าทั้งโลก ยังมีปัจจัยสงครามการค้าสหรัฐและจีนยังไม่ชัดเจน ภาวะเศรษฐกิจและการเมืองสหรัฐ โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่จะต้องมีการผ่านร่างงบประมาณปี 2563 จะมีการหยุดทำการของหน่าวงานราชการสหรับ(ชัตดาวน์) หรือไม่ เศรษฐกิจจีนที่อาจจะชะลอตัวมากกว่าที่คาด และติดตามผลเจรจาเบร็กซิท เป็นต้น

“ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม คือบรรยากาศการเมืองหลังการเลือกตั้งว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ต้องติดตามกระบวนการงบประมาณของปี 2563 ที่อาจจะล่าช้าไม่ทันประกาศใช้ใน 1 ตุลาคม 2562 อาจจะมีผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบของรัฐให้ล่าช้าอีกได้ แต่ตามหลักการปฏิบัติสามารถเบิกจ่ายงบประมาณโดยอ้างอิงปีงบประมาณ 2562 และมีการเบิกจ่ายเฉพาะโครงการสำคัญและเร่งด่วนก่อนได้ ปัจจุบันสศช. จึงยังยืนคาดการณ์ที่ 4.0% ต้องติดตามสถานการณ์หลังการเลือกตั้งก่อน และอาจจะมีการปรับประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงเดือนพฤษภาคม” นายทศพร กล่าว

เกาะกระแสเศรษฐกิจใกล้ตัว กับมติชน คลิ๊ก!

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image