นายภุชพงค์ โนดไธสง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ต่อนโยบายและมาตรการสำหรับสังคมเด็กเกิดน้อยปี 2562 เพื่อศึกษาผลกระทบของภาวะสังคมสูงวัยและเด็กเกิดน้อยต่อสภาวะเศรษฐกิจและสังคมของไทย โดยส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการสัมภาษณ์ประชาชนที่มีอายุ 15-49 ปี ทั่วประเทศ และบันทึกข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ลงในเครื่องแท็บเล็ต ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบาย และมาตรการสำหรับสังคมเด็กเกิดน้อยปี 2562 เพื่อทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับความเชื่อ และค่านิยม ความสุขและความพึงพอใจกับชีวิต รวมถึงความรู้ความเข้าใจเรื่องการเจริญพันธุ์ ความต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือตามมาตรการสนับสนุนการมีบุตรและการเลี้ยงดูบุตร เพื่อเป็นข้อมูลให้รัฐบาลได้ศึกษาผลกระทบของภาวะสังคมสูงวัยและเด็กเกิดน้อยต่อสภาวะเศรษฐกิจและสังคมของไทย ตลอดจนเตรียมความพร้อมรองรับสังคมสูงวัย
นายภุชพงค์ กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางประชากรที่สำคัญ ทั้งการเข้าสู่สังคมสูงวัยสมบูรณ์ในปี 2564 และอัตราการเจริญพันธุ์มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ระดับที่เรียกว่า อัตราการเจริญพันธุ์ระดับต่ำมากที่ 1.3 หรือน้อยกว่า ซึ่งปัญหาที่เกี่ยวกับการเจริญพันธุ์นั้น ถือได้ว่า เป็นปัญหาเชิงซ้อนที่มาจากหลายสาเหตุและหลายเงื่อนไข เช่น ทัศนคติและค่านิยมเกี่ยวกับสถาบันครอบครัว บทบาททางเพศ เงื่อนไขด้านอาชีพ การงาน ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
องค์กรภาครัฐได้ริเริ่มโครงการและประกาศใช้มาตรการ เพื่อตอบสนองปรากฏการณ์สังคมเด็กเกิดน้อย ซึ่งการออกนโยบายและมาตรการ เพื่อตอบโจทย์ที่เป็นเรื่องสำคัญระดับประเทศ จำเป็นต้องอาศัยผลการสำรวจความคิดเห็นและทัศนคติเกี่ยวกับการสร้างครอบครัวของประชากรไทยวัยเจริญพันธุ์ที่เป็นประชากรเป้าหมาย เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเชิงนโยบาย และทราบถึงปัจจัยและกลไกที่ส่งผลต่อการสร้างครอบครัวของประชากรไทย จึงขอความร่วมมือครัวเรือนที่ตกเป็นตัวอย่างของการสำรวจครั้งนี้ ให้ข้อมูลที่เป็นจริงแก่เจ้าหน้าที่
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
