นางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจอัตราความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบันมีสัดส่วนความต้องการจัดเป็น 10 อันดับ ดังนี้ ได้แก่ 1.งานขายและการตลาด 22.65% 2.งานบัญชีและการเงิน 12.16% 3.งานวิศวกรและการผลิต 8.62% 4.งานไอที 8.11% 5. งานธุรการ 7.15% 6.งานบริการลูกค้า 6.39% 7.งานระยะสั้นต่างๆ 6.28% 8.งานระดับผู้บริหาร 5.63% 9.งานทรัพยากรบุคคล 5.02% และ 10.งานโลจิสติกส์ 3.04%
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับ คือ ธุรกิจการบริการ ได้แก่ ขนส่งและโลจิสติกส์, ค้าปลีกค้าส่ง, บริการเฉพาะกิจและที่ปรึกษาด้านต่างๆ รองลงมา คือ ธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ ยานยนต์, วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร และปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ สุดท้ายคือ ธุรกิจด้านเทคโนโลยี ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
“อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของสถานการณ์ตลาดแรงงานแม้จะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่อัตราการว่างงานลดลงเมื่อเทียบระหว่างปี 2561 กับ 2562 อยู่ที่ 0.04% โดยมีปัจจัยบวกจากการที่ไทยเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นนโยบายการปฏิรูปประเทศ และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ทำให้ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ตลาดแรงงาน และภาคการศึกษา ทุกฝ่ายตื่นตัว มีการตั้งรับและวางแผน รวมถึงบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนตัวเอง องค์กรและประเทศไทยก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน นับว่า เป็นความท้าทายที่ทุกภาคส่วนต้องรับมือให้ทันกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป” นางสาวสุธิดา กล่าว
