งานบางกอกเจมส์เริ่มแล้ว พณ.คาดส่งออกปี62ยังโตได้1-3%

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรือ Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 63 จัดระหว่างวันที่ 20 – 22 กุมภาพันธ์ ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี  เพื่อส่งเสริมศักยภาพและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทั้งขนาดใหญ่ และเอสเอ็มอีให้ขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก คาดดึงนักธุรกิจและผู้ซื้อกว่า 20,000 รายทั่วโลกเข้าร่วมงาน

น.ส.บรรจงจิตต์  กล่าวว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของประเทศ ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ในแง่ของการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก อีกทั้งยังสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ช่างฝีมือและแรงงานในภาคอุตสาหกรรมถึง 1.2 ล้านคน และปี 2561 การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ รวมทองคำ มีมูลค่า 383,713 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.74% ของการส่งออกทั้งหมดจากประเทศไทย นับเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ไทยอย่างมาก และเพื่อเป็นการตอกย้ำการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับของโลก

น.ส.บรรจงจิตต์  กล่าวว่า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและส่งเสริมด้านการตลาด ในหลายด้าน อาทิ การจัดทำกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และสร้างการรับรู้โดยตรงแก่ผู้บริโภค เช่น โครงการ Buy with confidence โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (GIT) คู่ขนานไปกับการส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมในต่างประเทศ ผ่านแคมเปญ “Thailand Magic Hands: the spirit of Jewelry Making ”

น.ส.บรรจงจิตต์  กล่าวว่า งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับถือเป็นเวทีการค้าที่สำคัญของนักธุรกิจ ผู้ซื้อ/ผู้ขาย ในการต่อยอดธุรกิจในหลากหลายมิติ ทั้งการสรรหาวัตถุดิบ การค้าขาย และการสร้างเครือข่ายพันธมิตร รวมทั้งการขยายช่องทางการขายสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Ali Express และ thaitrade.com โดยมีผู้ผลิต และผู้ส่งออกชั้นนำจากไทยและนานาชาติกว่า 900 ราย อาทิ ฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน อินเดีย อิสราเอล อิตาลี ประเทศสมาชิกอาเซียน และอื่นๆ อีกมากมาย เข้าร่วมจัดแสดงสินค้า อัญมณีและเครื่องประดับคุณภาพ ที่ครอบคลุมทุกประเภทสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่อง กว่า 2,000 คูหา และคาดว่าคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 20,000 ราย จาก 130 ประเทศทั่วโลก เกิดคำสั่งซื้อภายในงานไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท

Advertisement

“แม้ปีนี้มีหลายปัจจัยที่มากระทบภาพรวมการส่งออกทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นหรือความไม่ชัดเจนของส่งครามการค้าสหรัฐและจีน แต่ยังเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมกลุ่มนี้จะเติบโตต่อเนื่องได้ไม่ต่ำกว่า 1-3% หรือมีมูลค่ากว่า 13,000-14,000  ล้านเหรียญสหรัฐ  และเชื่อว่าความต้องการสินค้ากลุ่มนี้ในตลาดโลกยังดีอยู่แม้จะเป็นกลุ่มสินค้าทางเลือกแต่กลุ่มที่มีกำลังซื้อยังเป็นที่ต้องการ จึงคิดว่าจะไม่น่าจะได้รับผลกระทบแต่อย่างใด” น.ส.บรรจงจิตต์  กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image