ครูหัวหินวอนช่วยศิษย์ นอนเป็นเจ้าชายนิทรา-แม่ป่วยโรคพุ่มพวง

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นางพจมาน อ่วมเสมียน อายุ 40 ปี ครูโรงเรียนเทศบาลวัดหนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความในไลน์ ก่อนมีการนำมาแชร์ในโลกโซเชียล ระบุว่า “ขออนุญาตทุกท่านนะคะ ครูมีเรื่องขอความเมตตาจากท่านผู้ใจบุญช่วยเหลือลูกศิษย์ของครูสักคนนะคะ ชื่อน้องแฟร้งค์ค่ะ ด.ช. สุรชัย พูลสุข นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนเทศบาลวัดหนองแกะ น้องป่วยเป็นโรคที่หมอยังวินิจฉัยไม่ได้ว่าเป็นโรคอะไร กลายเป็นเจ้าชายนิทราเป็นผู้ป่วยติดเตียงตอนนี้ปอดติดเชื้ออยู่โรงพยาบาลหัวหิน ครอบครัวยากจน ต้องเช่าห้องอยู่ คุณแม่เป็นโรคพุ่มพวงต้องรักษาตัวเองด้วย ดูแลลูกด้วย และทุกเดือนต้องเดินทางไปรับยาที่ ร.พ.จุฬาเพื่อรักษาตัวเองและลูก ค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวแม่และลูกก็ผ่อนกับทาง ร.พ.จุฬาน่าจะหลายแสนอยู่ค่ะ ยังมีค่าอาหารทางสายยาง ค่าอุปกรณ์ทำแผล และแพมเพิร์สที่ต้องใช้ตลอดทุกวัน ครูสงสารค่ะ เผื่อข้อความของครูจะส่งไปถึงผู้ใหญ่ใจดีได้ลงมาช่วยเหลือครอบครัวนี้บ้าง ขอบคุณทุกท่านที่อ่านและแชร์ข้อความของครูนะคะ”

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นางสุดารัตน์ ทองสุข อายุ 40 ปี มารดา ด.ช.สุรชัย พูลสุข หรือน้องแฟร้งค์ อายุ 11 ปี ที่นอนรักษาตัวภายในห้องไอซียู ชั้น 3 โรงพยาบาลหัวหิน นางสุดารัตน์กล่าวว่า ตนมีบุตรชาย 2 คน คนโตอายุ 20 ปี ทำงานเป็น รปภ.โรงแรมแห่งหนึ่ง ส่วนพ่อน้องแฟร้งค์ แยกทางกันตั้งแต่น้องแฟร้งค์ยังเด็ก ปัจจุบันอาศัยอยู่ในบ้านเช่าในซอยหัวหิน 102 หารายได้จากเย็บพรมเช็ดเท้า ร้อยพวงมาลัยขาย ก่อนหน้านี้เมื่อสามปีก่อน น้องแฟร้งค์ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกและกลับมาป่วยอีกเมื่อปีที่แล้ว รักษาหายแต่ยังมีอาการไอ เจ็บคอ และซึมอยู่ตลอด ต่อมาน้องเป็นไข้และช็อก จึงพาไปรักษาที่ รพ.หัวหิน แต่แพทย์อยู่ระหว่างการวินิจฉัยโรค กระทั่งลูกชายเริ่มไม่รู้สึกตัว จึงส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลราชบุรี โรงพยาบาลจุฬา แต่ยังไม่ทราบสาเหตุว่าการป่วย ถึงขณะนี้ต้องนอนนิ่งเป็นเจ้าชายนิทรา โดยมีอาการติดเชื้อรุนแรงที่ช่องท้องเนื่องจากต้องเสียบสายปัสสาวะตลอดเวลา และเริ่มมีแผลกดทับตามตัว

“ขณะนี้ต้องขอผ่อนจ่ายค่ายาจากทางโรงพยาบาลจุฬา เพราะตัวเองก็ป่วยเป็นโรคพุ่มพวงต้องรักษาด้วย ทำงานหนักไม่ได้ ภาระทั้งหมดจึงตกอยู่กับลูกชายที่ทำงาน รปภ. สิ่งที่ต้องการมากคืออุปกรณ์ทำแผล แพมเพิส ทุกวันนี้คนในครอบครัวพร้อมที่จะสู้และรอวันที่น้องจะกลับมาพูดคุยและสดใสเหมือนเดิม แม้ความหวังจะมีไม่มาก” นางสุดารัตน์ กล่าว

ด้านนางพจมาน อ่วมเสมียน ครูประจำชั้นของน้องแฟร้งค์ กล่าวว่า ครูมาเยี่ยมบ่อยและช่วงนี้เห็นความลำบากต้องหาค่าเช่าบ้านเพิ่ม แล้วน้องก็อาการหนักขึ้น ยารักษามาจากต่างประเทศมีราคาแพง ต้องเป็นหนี้กับโรงพยาบาล จึงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือแบ่งเบาภาระให้ครอบครัวเด็ก แม้ว่าเด็กของครูอาจไม่กลับมาปกติเหมือนเดิม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image