เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากช่วงปิดสิ้นสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 31.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในสัปดาห์นี้ต้องจับตาความคืบหน้าการเจรจาการค้าจีนกับสหรัฐ และถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส
นายจิติพลกล่าวว่า วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ฝั่งสหรัฐจะมีการแถลงการณ์เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดและมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐ โดยประธานเฟดต่อหน้าคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร คาดว่าครั้งนี้สภาคองเกรสอาจถามถึงความกังวลความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง ซึ่งเฟดมีความพร้อมที่จะปรับนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจและตลาดการเงิน ส่วนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ มองว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการบริการของจีนในเดือนกุมภาพันธ์ จะปรับตัวลดลง ยืนยันแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันนี้คาดว่าจีดีพีสหรัฐในไตรมาสที่ 4 ปี 2561 จะขยายตัวเพียง 2.4% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ถือว่าแย่กว่าไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ที่ขยายตัวถึง 3.4% โดยเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากผลกระทบสงครามการค้า รวมทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่เริ่มปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน
นายจิติพลกล่าวว่า วันที่ 1 มีนาคม มองเงินเฟ้อของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวสูงขึ้น 0.35% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ถือว่าดีขึ้นจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในเดือนมกราคมที่ระดับ 0.27% เพราะราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นมาแล้ว ในส่วนของค่าเงินบาท คาดว่าสัปดาห์นี้จะแกว่งตัวในกรอบกว้าง และมีโอกาสแข็งค่าได้ถ้ามุมมองนโยบายการเงินในสหรัฐผ่อนคลายขึ้น นอกจากนี้ ตลาดก็กำลังมีความหวังว่าการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐจะเป็นบวกขึ้นด้วย โดยรวมตลาดทุนที่เปิดรับความเสี่ยง จึงจะเป็นตัวนำทิศทางเงินบาท ย้ำภาพเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า ถ้ามีเงินทุนไหลเข้าในตลาดหุ้นและพันธบัตร (บอนด์) ไทย คาดกรอบเงินบาทในวันนี้ 31.23 ถึง 31.33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ กรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 31.10 ถึง 31.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
