นางญาณี แสงศรีจันทร์ โฆษกกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในปีงบ 2562 รัฐบาลตั้งเป้าหมายการใช้จ่ายเงินงบประมาณ 100% ถือเป็นปีแรกที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายสูงในระดับนี้ ซึ่งเป้าหมายใช้จ่ายเงิน 100% หมายถึงการเบิกจ่ายจริง บวกกับการก่อหนี้ต้องทำภายในปีงบประมาณ ถ้าไม่มีการก่อหนี้ภายในวันที่ 30 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดปีงบประมาณ งบที่ได้รับจัดสรรต้องพับ(ยกเลิก) ตรงนี้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ ของสำนักงบประมาณ ซึ่งมีผลตั้งแต่ปลายปีงบประมาณ 2561 ทำให้หน่วยงานราชการเร่งใช้จ่ายงบตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ เพราะกลัวว่างบประมาณถูกพับ
“ในปีนี้หน่วยงานราชการตื่นตัวเบิกจ่ายกันพอสมควร ดังนั้นการถึงเป้าหมาย 100% น่าจะเป็นไปได้ จากก่อนหน้านี้การเบิกจ่ายงบประมาณอยู่ในระดับ 90% โดยปีนี้กฎหมายวิธีการงบประมาณถือเป็นข้อบังคับที่หน่วยงานราชการต้องเร่งเบิกจ่าย เพราะกฎหมายกำหนดไว้ว่าเงินงบประมาณปีไหนต้องใช้ในปีนั้น ถ้าไม่มีการก่อหนี้ในปีงบ จะไม่สามารถกันงบประมาณไปใช้ในปีงบถัดไปได้ ถ้าใช้งบไม่ทันตามแผนจะเกิดปัญหาตามมา เช่น ต้องไปเฉียดงบประมาณในปีถัดไปมาทำโครงการเอง เพราะไม่สามารถของบประมาณทดแทนได้ทัน เนื่องจากการทำงบประมาณในปีถัดไปจะทำตั้งแต่ต้นปี ดั้งนั้นหน่วยราชการต้องบริหารงบประมาณให้ดี”นางญาณีกล่าว
นางญาณีกล่าวว่า ในส่วนของกรมบัญชีกลางตั้งทีมเข้าไปติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยราชการ 149 ทีม ประกอบด้วยทีมของส่วนกลาง 64 ทีมกำหนดให้แต่ละทีมติดตามงบ 3 หน่วยงาน(กรม) และทีมของส่วนภูมิภาคอีก 85 ทีม เช่น คลังจังหวัด คลังเขต ซึ่งกรมบัญชีกลางต้องการให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามแผนของปีงบประมาณ เพราะการเบิกจ่ายเงินส่วนราชการเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานรัฐบาล เป็นส่วนหนึ่งทำให้เศรษฐกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้
“ในช่วงของการเลือกตั้ง มั่นใจว่าการเบิกจ่ายไม่สะดุด เพราะมีกฎหมายวิธีการงบประมาณบังคับอยู่ รวมถึงกรมบัญชีกลางมีทีมเข้าไปกำกับดูแลทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ดังนั้นในเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ทุกหน่วยงานต้องทำตามแผนที่วางไว้”นางญาณี กล่าว
นางญาณีกล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2 ของปีงบ 2562 (วันที่ 1ตุลาคม 2561- วันที่ 31 มีนาคม2562) ตั้งเป้าหมายเบิกจ่ายงบประจำ 57% งบลงทุน 45% และการเบิกจ่ายในภาพรวม 54% โดยในช่วง 4 เดือนแรกปีงบประมาณตั้งแต่ 1 ตุลาคม2561 -ถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 มีการใช้จ่ายงบไปแล้ว 1.35 ล้านล้านบาทของวงเงินงบประมาณ 3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 45.2% โดยแบ่งเป็นรายจ่ายประจำมีการใช้จ่ายแล้วจำนวน 1.09 ล้านล้านบาทของวงเงินงบประมาณ 2.35 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น46.6% ของวงเงินรายจ่าย สำหรับส่วนของรายจ่ายลงทุน (กรณีไม่รวมงบกลาง) มีการใช้จ่ายแล้วจำนวน 2.60 แสนล้านบาทของวงเงินงบประมาณ 5.57แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 46.7% ถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจ
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
