เหยี่ยวถลาลม : ก็แล้วแต่คุณ

เมื่อมีคนถามว่า มีการโจมตี คสช. ว่าเป็นผู้แต่งตั้ง ส.ว. ซึ่งมีสิทธิคัดเลือกนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดต จะมั่นใจได้อย่างไรว่า ส.ว.จะไม่โหวตสวนทางความต้องการของประชาชน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม “พี่ใหญ่” ของน้องๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้งให้เป็น “ประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ว.” ก็ตอบว่า “ก็แล้วแต่สื่อจะให้เลือกอย่างไร”

คล้ายเหน็บแนม แทนคำบอกกล่าวว่า เสือกทุกเรื่อง

แต่สื่อมวลชนแสนซุกซนก็ยังถามต่ออีกว่า มั่นใจหรือไม่ว่า ส.ว.ที่ คสช.เลือกมาทั้ง 250 คนนั้นจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามเสียงประชาชน (จากผลเลือกตั้ง) พล.อ.ประวิตรก็ยังคงกล่าวตอบในทำนองเดียวกันว่า
“ก็แล้วแต่คุณ จะให้เลือกยังไง”

Advertisement

“คุณ” ในที่นี้ ตีความได้ 2 ทาง

หนึ่งคือ “คุณ-สื่อมวลชน” กับอีกหนึ่งคือ “คุณ-ประชาชน”

คุณที่หนึ่ง “สื่อมวลชน” คุณจะทำอะไรได้

Advertisement

“คสช.” ไม่ได้มองสื่อมวลชนอยู่ในสายตา คนที่ปากกล้าก็มีวิธีจัดการ อิทธิพลสื่อไม่ระคายผิว คสช.ที่มีความเป็นปึกแผ่นแน่นหนาผ่านระบบการแต่งตั้งโยกย้าย 3 เหล่าทัพ
กับ 1 ตำรวจ

คุณที่สอง “คุณ-ประชาชน” คุณจะทำอะไรได้

คุณ-ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1 คน

คุณมีแค่ 1 เสียง

ให้ 1 เสียงเหล่านั้นไปรวมกันมา เลือก ส.ส.เข้าสภา 350 เขต 350 คน ที่เหลืออีก 150 มาจากคะแนนเฉลี่ยเกลี่ยกันอย่างทั่วถึง จึงรวม ส.ส. 500 คน

ครึ่งหนึ่งของ 500 คือ 250 คน

ในคราวนี้ จะมีพรรคการเมืองขนาดใหญ่พรรคไหนที่จะได้ ส.ส.มากมายขนาดนี้

เมื่อเข้าสภาโหวตหาตัว “นายกรัฐมนตรี” เสียง ส.ส.500 คน ก็ต้องรวมกับ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช.250 คน

ในสภารวมกันเป็น 750 คน

จะชนะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก็ต้องมีอย่างต่ำ 376 เสียง

ที่เป็นกลุ่มก้อนผนึกแน่นแท้จริงเป็น “เสียง ส.ว.”

ไม่ใช่ “เสียงคุณ” ที่เป็น “สื่อ”

และไม่ใช่ “เสียงคุณ” คนที่กาบัตรเลือกตั้ง

ถ้าจะให้ “เสียงจากคนกาบัตรเลือกตั้ง” ดังจริงก็ต่อเมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเทเสียงไปให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ท่วมท้นเกิน 376 เสียง

นาทีนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้

คำว่า “ก็แล้วแต่คุณจะให้เลือกยังไง” ชวนให้คิดในทางตรงกันข้ามว่า “ยุ่งอะไรด้วย” !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image