เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศช่วงใกล้วันเลือก ส.ส. ที่ถึงในวันที่ 24 มี.ค.นี้ พบว่าผู้สมัคร ส.ส.ของแต่ละพรรคทั้ง 7 เขต ของจ.สุรินทร์ ต่างเร่งลงพื้นที่หาคะแนนเสียงกันอย่างหนัก แล้วแต่วิธีการและเทคนิคของแต่ละคน เพื่อให้ได้คะแนนเสียงให้มากที่สุด ขณะที่เขต 6 นายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ พรรคพลังประชารัฐ เขต 6 เบอร์ 2 ก็ได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านแบบใกล้ชิดถึงตัว พาทีมผู้ช่วยหาเสียงเดินเคาะประตูบ้าน และตามตลาดนัดต่างๆก่อนที่จะเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงที่ลานเอนกประสงค์ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ มีชาวบ้านให้ความสนใจร่วมฟังการปราศรัยจาก 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.ณรงค์ ต.ศรีสุข และต.หนองแวง กว่า 2 พันคน
โดยชูนโยบายหลักของพรรคคือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และหากพรรคชนะการเลือกตั้งเป็นรัฐบาล จะเสนอให้ชาวนาได้ค่าเก็บเกี่ยวข้าวไร่ละ 2,000 บาท จำนวน 20 ไร่ ค่าปลูกข้าวไร่ละ 1,500 บาท จำนวน 20 ไร่ รวมทั้งสิ้น ชาวนาจะได้เงินจากค่าปลูกข้าวและค่าเก็บเกี่ยวครัวเรือนละ 70,000 บาท นโยบายพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี ระหว่างนี้ก็ตั้งกองทุนใหม่ คือกองทุนประชารัฐ ให้ประชาชนไปกู้เงินมาใช้ ดูแลลูกหลาน พร้อมทั้งนโยบายมารดาประชารัฐ ดูแลเด็กที่เกิดใหม่ถึงอายุ 6 ปี และนโยบายใหม่ล่าสุด ประกันราคามันสำปะหลัง ก.ก.ละ ไม่ต่ำกว่า 3 บาท ซึ่งทำเอาชาวบ้านที่มาฟังการปราศรัยต่างชูป้ายสนับสนุนและร้องตะโกนเบอร์และชื่อของผู้สมัครกันลั่นสนามปราศรัยอีกด้วย
สำหรับเขต 6 ก็เป็นอีกเขตหนึ่งที่มีการแข่งขันอย่างเข้มข้น หรือเรียกได้ว่าเขตช้างชนช้างก็ว่าได้ เนื่องจากผู้สมัครหลายคนเป็นถึงอดีต ส.ส.หลายสมัย อาทิ นายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 6 เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.มาแล้ว 3 สมัย ,นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ ผู้สมัครส.ส.สุรินทร์ เขต 6 เบอร์ 5 พรรคเพื่อไทย ก็เป็น อดีต ส.ส.สุรินทร์ ถึง 7 สมัยอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไชยศรีษะ ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 6 เบอร์ 20 พรรคเพื่อชาติ ซึ่งเป็นภรรยาของ จ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย , น.ส.ดวงใจ ตาเลิศ ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 6 เบอร์ 14 พรรคประชาชาติ และนายล้ำเลิศ พัวพัฒนโชติ ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 6 เบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทย และนายทวีศักดิ์ ล้นเหลือ ผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคประชาภิวัฒน์ เบอร์ 4 ซึ่งต่างคนต่างลงพื้นที่เชิงรุก แบบเคาะประตูบ้านแนะนำตัวและนโยบายพรรคของตนเอง รวมทั้งตั้งเวทีปราศรัยกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียกคะแนนเสียงให้กับตนเองให้มากที่สุด ในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ที่นับวันยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเข้ามา
