ภาพเก่าเล่าตำนาน ฝูงเพชฌฆาตน้ำเค็ม…แห่งเกาะแรมรี โดย : พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

ฝูงจระเข้น้ำเค็มนับร้อยตัวที่แสนจะดุร้ายในป่าชายเลนบนเกาะแรมรี ของพม่า กระโจนเข้ากัด สะบัด กระชากร่างของทหารญี่ปุ่นนับร้อยนายที่หลบหนีการปะทะกับข้าศึก…

นักฆ่ากรามแข็งดังเหล็กฉีกขาดร่างมนุษย์ด้วยคมเขี้ยว มันคาบร่างทหารญี่ปุ่นดำดิ่งลงไปในน้ำ ได้ลิ้มรส กลืนกินเรือนร่างมนุษย์อย่างเมามัน เป็นโศกนาฏกรรมจระเข้สังหารหมู่มนุษย์ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก…

สงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่าง พ.ศ.2484-2488 มีบางฉากบางตอนของสงครามมาป้วนเปี้ยนในแผ่นดินสยาม มีบางฉากสุดแสนหฤโหดบังเกิดในดินแดนประเทศเพื่อนบ้านของสยาม

ผมค้นหาเรื่องแปลกๆ จากภาษาต่างประเทศ พบเรื่องน่าสยดสยองที่มนุษย์ฆ่าฟันกันระหว่างสงครามมากหลาย แต่เรื่องนี้ไม่ซ้ำซาก ไม่เหมือนใคร…

Advertisement

เรื่องนี้…ต้องนำมาบอกเล่าเก้าสิบแบบพลาดไม่ได้ เป็นเหตุการณ์ช่วงหนึ่งในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทหารญี่ปุ่นราว 500 นายโดนสังหารโหดโดย “จระเข้น้ำเค็ม”

7 สิงหาคม พ.ศ.2484 กองทัพลูกพระอาทิตย์อันแสนเกรียงไกรมายกพลขึ้นบกในเมืองชายทะเลฝั่งอ่าวไทย สู้รบกับทหาร-ประชาชนไทย บาดเจ็บล้มตายไม่น้อยที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์และปัตตานี แล้วทำสัญญาหยุดยิง

ญี่ปุ่นสร้างทางรถไฟจากราชบุรี ผ่านกาญจนบุรีเข้าไปในพม่าเพื่อจะเข้าไป “กวาดล้างทหารอังกฤษในพม่า” ที่ไหนมีทหารฝ่ายสัมพันธมิตร อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ญี่ปุ่นต้องตีให้แตก

กองทัพลูกพระอาทิตย์รบที่ไหนชนะที่นั่น …ยึดพื้นที่หลายประเทศในทวีปเอเชีย

เกาะแรมรี (Ramree Island) เป็นส่วนหนึ่งของจ๊อกปะยู เป็นเกาะนอกชายฝั่งรัฐอาระกัน (Arakan State) ของพม่า ตัวเกาะมีคลองกว้างราว 150 เมตร กั้นแยกออกมาจากแผ่นดินใหญ่ มีพื้นที่เกาะ 1,350 ตารางกิโลเมตร

ในปี พ.ศ.2485 ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นนำกำลังเข้ามาวางกำลังและยึดพื้นที่เกาะนี้ มีทหารราว 1 พันนาย

กองทัพอังกฤษต้องการยึดพื้นที่แห่งนี้ เพื่อสร้างสนามบินสำหรับภารกิจ “ส่งกำลังบำรุง”

อังกฤษเคลื่อนกำลังเข้าโจมตีหน่วยทหารญี่ปุ่นเพื่อยึดจะเกาะแรมรี โดยใช้กำลังตีโอบ 2 ปีก ระดมยิง ขับไล่ทหารญี่ปุ่นออกจากเกาะ

ทหารญี่ปุ่นราว 1,000 นาย บนเกาะถูกโจมตีด้วยกำลังของอังกฤษที่เหนือกว่า ตัดสินใจร่นถอย ซึ่งทางเดียวที่จะหนีไปได้ คือลุยน้ำทะเลระดับหน้าอก และต้องเดินในป่าชายเลน เพื่อนำกำลังไปสมทบกับกำลังอีกส่วนหนึ่งที่อยู่อีกฟากหนึ่งของเกาะ…ทหารญี่ปุ่นตัดสินใจหนีลงน้ำ เข้าป่าพรุ

มันคือค่ำคืนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2488 ที่โลกต้องจดจำ ทหารเลือดซามูไรเกือบ 1 พันนายไม่คุ้นกับภูมิประเทศบริเวณนั้นมาก่อน ถูกยุงในป่าพรุกัดแสนสาหัสขณะเข้าไปในพรุ หนีตายเข้าไปในป่าชายเลนที่เต็มไปด้วยป่าโกงกาง

ทหารญี่ปุ่นต้องเจอกับสัตว์มีพิษอีกจำนวนมากทั้งงูพิษ หน่วยทหารของอังกฤษซึ่งส่วนหนึ่งเป็นทหารอินเดียวางกำลังปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวแบบไม่ให้คลาดสายตา

…คืนวันนั้นทหารอังกฤษที่ปิดล้อม กดดันทหารญี่ปุ่นให้ร่นถอย ต่างได้ยินเสียงกรีดร้อง และได้ยินเสียงยิงปืนของทหารญี่ปุ่นเป็นช่วงๆ โดยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในป่าพรุแห่งนั้น

ทหารญี่ปุ่นที่กำลังหนีตายเกือบ 1 พันนาย ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าบริเวณนั้นมี “จระเข้น้ำเค็ม” อาศัยอยู่ชุกชุมจนถูกขนานนามว่า “เกาะจระเข้กินคน”

จระเข้น้ำเค็มเป็นสัตว์นักล่าเลื้อยคลานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มันมีขนาดตัวยาวถึง 20 ฟุต และมีน้ำหนักประมาณ 2,200 ปอนด์ ทั้งมันยังสามารถฆ่ามนุษย์ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

จระเข้ (crocodiles) เป็นสัตว์เลื้อยคลานกลุ่มหนึ่งที่ยังคงหลงเหลือมาจากยุคไดโนเสาร์ มีลำตัวยาว ปากยาว ภายในมีฟันแหลมเรียงเป็นแถว กินเนื้อสัตว์อื่นเป็นอาหาร ในประเทศไทยมีจระเข้อยู่ 3 ชนิด ได้แก่ จระเข้น้ำจืด (Crocodylus siamensis) จระเข้น้ำเค็ม
(C. porosus) และตะโขงหรือจระเข้ปากกระทุงเหว (Tomistoma schlegeli)

นิสัยการกินอาหารของจระเข้จะเปลี่ยน แปลงไปตามอายุของการเจริญเติบโต ปกติจะเริ่มหาอาหารกินในเวลาเย็น ลูกจระเข้กินสัตว์ขนาดเล็ก กบ แมลงปอ ปู และแม้แต่ลูกน้ำยุง

นิสัยการล่า ชอบใช้ลำตัวและหางที่ยาวโอบล้อมเหยื่อไว้ก่อนที่จะกัดกิน ถ้าเหยื่อมีขนาดใหญ่วิธีการล่าจะเปลี่ยนเป็นการว่ายน้ำเข้าสู่เหยื่ออย่างช้าๆ ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้างับ โดยการแกว่งปากไปงับทางด้านข้างเพราะตาของจระเข้อยู่ทางด้านข้างของส่วนหัว

ยุทธวิธีในการล่าเหยื่อของจระเข้ขนาดใหญ่ ใช้วิธีพรางตัวลอยอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งจะเห็นเพียงลูกตาทั้งสองและปุ่มจมูกที่เรียกว่า ก้อนขี้หมา อยู่เหนือน้ำ ค่อยๆ ส่ายเข้าหาเหยื่ออย่างช้าๆ จึงโผขึ้นงับหัวหรือขา แล้วลากลงใต้น้ำให้เหยื่อจมน้ำตาย บนพื้นดินจระเข้จะซุ่มดักรอตามทางเดินของสัตว์ หรือบริเวณใกล้แอ่งน้ำ เมื่อเหยื่อเข้าใกล้จึงเข้างับแล้วพยายามลากลงสู่แหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุด บางตัวอาจใช้หางฟาดเหยื่อเพื่อลดการดิ้นรนอีกด้วย

จระเข้มีฟันเป็นซี่แหลมเรียงไปตามความยาวของปาก ฟันนี้ใช้ในการจับเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ หากเหยื่อมีขนาดเล็กจะกลืนกินทั้งตัว

ฟันเมื่อหลุดออกไปจะมีซี่ใหม่งอกขึ้นมาแทนที่อย่างรวดเร็ว วิธีการฉีกเหยื่อของจระเข้ ใช้การงับบริเวณขาหรือแขนของเหยื่อแล้วม้วนตัวไปอย่างรวดเร็ว เหยื่อจะฉีกออกโดยง่าย

พ.ศ.2507 ในประเทศไทยของเราเคยมีเหตุการณ์จระเข้กินคน ที่ได้ขึ้นชื่อว่าดุร้ายที่สุดชื่อว่า “ไอ้ด่างคลองบางมุด” บ้านหนองไก่ปิ้ง ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ชาวบ้านเล่ากันว่าไอ้ด่างจระเข้ยักษ์ มีขนาดความยาวนับแต่หัวจรดท้ายคะเนด้วยสายตาราว 4 เมตร

จระเข้ยักษ์ที่ อ.หลังสวน เป็นพันธุ์ “ไอ้เคี่ยม” หรือ “พันธุ์ทองหลาง” อยู่ได้ทั้งในน้ำกร่อยและในน้ำเค็มส่วนเท้า เหมือนตีนเป็ดแผ่เป็นพังผืดเต็มระหว่างเล็บของมันเพื่อให้ว่ายน้ำได้รวดเร็ว ไอ้ด่างกินไป 7 คนก่อนถูกล่าสังหารในที่สุด

กลับไปที่เหตุการณ์คืนนั้นบนเกาะแรมรี ในพม่าครับ…

เหตุการณ์ “จระเข้กินคนครั้งใหญี่ที่สุดของโลก” ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อทหารญี่ปุ่นพยายามข้ามลำน้ำในพื้นที่พรุแห่งนี้ ทหารญี่ปุ่นราว 1,000 นายไม่ต้องการโดนอังกฤษจับเป็นเชลย จึงไม่รีรอที่จะตัดสินใจลุยฝ่าบึงนรกด้วยไม่ทราบว่ามัจจุราชน้ำเค็มรอวันนี้มานาน

ทหารอังกฤษที่อยู่บนฝั่งไม่ต้องออกแรง ไม่ต้องลั่นกระสุนแม้แต่นัดเดียว เพชฌฆาตน้ำเค็มตัวจริงกำลังทำงานด้วยความสนุกสนานเอร็ดอร่อย มีทหารญี่ปุ่นราว 20 นายหนีตาย ยอมกลับหลังหันมาขึ้นฝั่งมอบตัวให้อังกฤษจับตัวดีกว่าให้จระเข้กลืนกิน

ค่ำคืนแห่งการหนีตาย ทหารจำนวนกว่า 500 คน ข้ามน้ำ ข้ามป่าพรุไปไม่ถึงฝั่ง ลูกหลานซามูไรเหล่านี้ไม่ได้ออกมาพ้นบึงเลยด้วยซ้ำ

นักล่าแห่งเกาะแรมรีทำให้ทหารค่อยๆ หายไปทีละคนๆ ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายและเสียงปืนที่ยิงสะเปะสะปะในค่ำคืนเดือนมืด

ทหารญี่ปุ่นถูกสังหารโดยฝูงจระเข้ยักษ์ที่ตะกละตะกลาม ส่วนทหารที่เหลือรอดมาได้ก็ล้วนบาดเจ็บสาหัส แต่ยังมีชีวิตและสติพอจะหวนระลึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของเหตุการณ์

บรู๊ซ สแตนลีย์ ไรท์ ที่รวบรวมข้อมูลสยองตรงนี้บรรยายว่า “มันคือค่ำคืนแห่งความสยดสยอง เพชฌฆาตน้ำเค็มแห่งเกาะแรมรีตัวขนาดยักษ์ที่แสนหิวโหย ซุ่มซ่อนลอยตัวสายตาปริ่มน้ำ ป่าโกงกางคือถิ่นที่อยู่มาช้านาน จระเข้ที่แสนตะกละ คืบคลานไปในความมืดแบบเงียบสงัด แล้วพุ่งเข้ากัดด้วยกรามและเขี้ยวแสนคม กระชากร่างของทหารหาญติดปาก ดำลงไปในน้ำลึก ทหารคนแล้วคนเล่าหายไป เสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะตลอดทั้งคืน คละเคล้ากับเสียงร้องอันน่าสมเพชของมนุษย์…”

โดยธรรมชาติ ถ้าเหยื่ออยู่น้ำตื้นๆ จระเข้มันไม่คลานไปคาบเอามากิน เหยื่อที่จระเข้จะเล่นงานต้องอยู่ในน้ำระดับหนึ่งพอที่จระเข้าจะเข้าไปกัด งับและดึงลงให้จมน้ำตายได้

ทหารถือปืนเมื่อเดินอยู่ในน้ำสูงราวๆ เอวขึ้นไป หรืออยู่บนดินเลนไม่มีโอกาสที่จะสู้จระเข้ได้

คืนอันแสนหฤโหดตลอดรุ่งเช้า ทหารญี่ปุ่นเสียชีวิตไปราว 450 นายเพราะถูกจระเข้น้ำเค็มกินเป็นอาหาร ทหารราว 1,000 คน เหลือรอดชีวิตเพียง 520 นาย

กินเนสส์บุ๊คยกเหตุการณ์สยองครั้งนั้นให้เป็น “โศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุดที่เกิดจากสัตว์”

พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

หมายเหตุข้อมูลบางส่วนจาก A Cacophony of Hell : The Story of the Ramree Island Crocrodile massacre.และนิสัยการกินอาหารของจระเข้ เรียบเรียงโดย จารุจินต์ นภีตะภัฏ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image