เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเหตุเด็กชายอายุ 16 ปี หายตัวออกไปจากบ้านพัก ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ไผ่เขียว อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ทราบชื่อคือ ด.ช.นนทพัทธ์ ศรีคำพา บ้านเลขที่ 198/1 หมู่ 2 ต.ไผ่เขียว อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ซึ่งครอบครัวแจ้งว่า ด.ช.นนทพัทธ์ได้หายตัวออกไปจากบ้าน เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา ทางครอบครัวได้เร่งค้นหาพร้อมด้วย ร.ต.อ.วิโรจน์ จันทรโย ร้อยเวร สภ.สว่างอารมณ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบถามนางมานิตย์ ศรีคำพา อายุ 62 ปี ผู้เป็นยายเล่าว่า ด.ช.นนทพัทธ์อาศัยอยู่กับตนเองตั้งแต่เล็ก เนื่องจากพ่อกับแม่แยกทางกัน ก่อนเกิดเหตุ ด.ช.นนทพัทธ์อยู่ในบ้านตามปกติ ไม่ได้แสดงอาการว่ามีปัญหาใดๆ โดยหลังกินข้าวเย็นเสร็จช่วงค่ำประมาณ 20.00 น. ด.ช.นนทพัทธ์ได้นอนอยู่ในมุ้ง แต่วันนี้ ด.ช.นนทพัทธ์ได้กางมุ้งครอบอีกชั้น ซึ่งตนเองก็แปลกใจแต่ไม่ได้คิดอะไร จึงได้เดินไปที่หน้ามุ้งและเรียกหลานว่า ชายถ้าจะเล่นโทรศัพท์ก็ปิดทีวีซะ แต่ไม่ได้ยินเสียงหลานชายตอบกลับมา จึงตัดสินใจเปิดมุ้งเข้าไปจึงพบว่า ด.ช.นนทพัทธ์ไม่ได้อยู่ในที่นอน แต่ได้นำหมอนข้างมาวางไว้บนหมอน แล้วนำผ้าห่มคลุมไว้ให้เหมือนกับว่ามีคนนอนอยู่ พร้อมกับทิ้งจดหมายไว้หนึ่งฉบับ ซึ่งมีเนื้อหาตัดพ้อ และคล้ายกับว่าจะลาตาย เนื้อหาระบุว่า
“จากชาย เด้อ ชายขอโทษจริงๆ ที่ชายเป็นลูกหลานที่เลวมากๆ ชายไม่อยากอยู่แล้ว มันแบบชาย มีรอติดตัวเยอะมาก ครูเค้าบอกตกซ้ำชั้น แต่จำไม่ได้ครูอะไรบอก ชายไม่อยากตกซ้ำชั้น ชายแบบว่าทั้งเรื่องอีกหลายๆอย่างที่เป็นสาเหตุที่ชายทำแบบนี้ ชายลาล่ะนะ ทุกคนชายไม่มีทางเลือกจริงๆ งานศพชาย บอกเพื่อนๆพี่น้องที่โรงเรียนด้วยนะ มากันให้ครบ แต่ชายอยากให้ครูคนนึงที่อยากให้มามากที่สุด แม่ให้ครูอ้อยมาด้วยนะ เพราะเค้าคือครูคนเดียวที่ชายเคารพมากที่สุด ชายรักพ่อจ๋า แม่จ๋านะ ครอบครัวตระกูลศรีคำพาทุกคน ชายลานะ นนทพัทธ์ (ลายเซ็น)”
ผู้เป็นยายกล่าวต่อว่า หลังจากพบจดหมายดังกล่าว ตนเองตกใจมากและบอกผู้เป็นตาให้ช่วยกันตามหาหลาน ซึ่งคาดว่าจะหนีออกไปทางหลังบ้าน เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวนั้นผู้เป็นตาอยู่บริเวณหน้าบ้าน อีกทั้งยังมีญาติพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียงที่ทราบข่าว ระดมกำลังช่วยกันออกตามหาจนถึงรุ่งเช้า กระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ในพื้นที่ทราบข่าว จึงประสานทีมงานช่วยกันออกตามหา จนสันนิษฐานว่า ด.ช.นนทพัทธ์อาจจะคิดสั้นกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย จึงได้พากันลงงมหาร่างที่สระน้ำของญาติที่อยู่ติดกัน ห่างจากบ้านพักประมาณ 500 เมตร ทีมประดาน้ำฯได้พบแท็บเล็ตซึ่งทางครอบครัวยืนยันว่าเป็นของ ด.ช.นนทพัทธ์ฯเนื่องจากแท็บเล็ตดังกล่าวเป็นของโรงเรียน จึงทำให้มั่นใจว่าร่างของ ด.ช.นนทพัทธ์น่าจะอยู่ในสระลูกนี้
ต่อมาได้พบร่างของ ด.ช.นนทพัทธ์อยู่ห่างจากแท็บเล็ตประมาณ 3 เมตร สภาพร่างสวมเสื้อกีฬาสีน้ำเงินแดง ร่างกายเริ่มบวมและเปลี่ยนสี คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 18 ชั่วโมง ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัว รวมถึงคณะครูและเพื่อนๆ แม้กระทั่งเณรบีม ซึ่งบวชอยู่ที่วัดทุ่งสงบ และเป็นอีกหนึ่งเพื่อนสนิทของผู้ตาย ที่ผู้ตายได้แชทข้อความไปหาเชิงลาตายในคืนเกิดเหตุอีกด้วย ซึ่งทุกคนต่างกล่าวเหมือนกันว่า ด.ช.นนทพัทธ์เป็นเด็กอารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส เป็นที่รักของเพื่อนๆ แต่ปัญหาที่ทราบก็เป็นไปตามที่ผู้ตายได้เขียนจดหมาย ส่วนจะมีปัญหามากกว่านั้นหรือไม่ก็ไม่ทราบ และไม่คิดว่าผู้ตายจะคิดสั้นได้ถึงเพียงนี้
