ผู้ต้องหาอ้างกิ๊กพยาบาล ขอยืมเงิน 1 หมื่นไม่ให้ โมโหใช้มีดปาดคอดับคารถ (คลิป)

จากกรณีพบศพนางศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่พยาบาล ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา นอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์เก๋งของตนเอง ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน ญฉ5426 กรุงเทพมหานคร โดยพบว่ากล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายเป็นชายขับรถมาจอดทิ้งไว้ ก่อนที่จะหลบหนีไป ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 11 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 1 ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวน สภ.ภาชี ได้ลงพื้นที่เร่งสืบสวน สอบพยานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด รายงานข่าวจากชุดสืบสวน พบภาพจากกล้องจรปิดของโรงพยาบาลภาชี พบผู้เสียชีวิตภายหลังออกเวรช่วงเที่ยงคืน เดินไปขับรถของตัวเองออกจากลานจอดรถของโรงพยาบาล และขับออกไปจอดบริเวณทางเข้าของโรงพยาบาลเตรียมที่จะเลี้ยวออกไปที่ถนนหน้าโรงพยาบาล ภาพจุดนี้ไม่ค่อยชัดเจนมากนัก เนื่องจากสุดของมุมกล้องพอดี จังหวะนั้นมีรถยนต์กระบะของคนร้ายจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นคนร้ายได้เดินข้ามถนนมาหาผู้ตาย จากนั้นได้ขับออกไป ใช้เวลาประมาณ 1 นาที

รายงานข่าวจากชุดสืบสวนยังมุ่งไปที่บุคคลใกล้ชิดกับผู้ตาย เพราะผู้ตายไว้ใจให้นั่งรถไปด้วยในเวลากลางดึก นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เสียชีวิตมีการไปค้ำประกันเงินกู้ให้กับบุคคลรายหนึ่ง รวมถึงให้บุคคลคนหนึ่งยืมเงินไปจำนวนหนึ่ง และมีเรื่องของชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ซึ่งพอจะทราบตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดให้พยานรายหนึ่งดู ยืนยันว่าคนร้ายรายนี้คือนายน๊อต เป็นอดีตพนักงานเวรเปล โรงพยาบาลภาชี ซึ่งลาออกไปแล้วประมาณ 1 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เสนอขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกอนุมัติหมายจับนายอั๋น หรือน๊อต ฟักศิริ อายุ 33 ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

Advertisement

ภายหลังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามไปจับกุมตัวนายน็อตได้ขณะหลบหนีเข้าไปภายในวัดลาดชิด ต.ลาดชิด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ควบคุมตัวมาสอบสวน

เบื้องต้นนายน็อตให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นเจ้าหน้าที่เวรเปล ในโรงพยาบาลเดียวกับผู้ตาย ก่อนจะลาออกไปได้ประมาณ 1 ปี ขณะทำงานได้สนิทสนมกับผู้ตาย คบหากันโดยไม่มีใครรู้ ประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ขอเงิน และหยิบยืมเงินผู้ตายใช้ จนระยะหลังผู้ตายเริ่มตีตัวออกห่าง จนวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้นัดเจอกับผู้ตายอีก นัดเจอที่หน้าโรงพยาบาล โดยผู้ต้องหานั่งรถไปด้วย ระหว่างทางเกิดมีปากเสียงกัน เพราะผู้ต้องหาขอยืมเงินอีก 10,000 บาท แต่ผู้ตายไม่ยอมให้ จึงได้ใช้อาวุธมีดข่มขู่จนเกิดการต่อสู้กัน ใช้มีดปาดคอ 1 แผล และแทง 1 แผล จากนั้นได้จับหัวกดกับเบาะรถด้านหลังจนแน่นิ่งไป แล้วนำรถมาจอดทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ ก่อนหลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว

ด้าน ผกก.สภ.ภาชี กล่าวว่า ชนวนเหตุการสังหารและความชัดเจนของคดีนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหา ซึ่ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร.จะเดินทางมาสอบสวนผู้ต้องหาและแถลงข่าวในวันที่ 12 มี.ค.

นายพัฒนา อ่วมเทพ อายุ 53 ปี เเฟนของผู้ตาย เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิด ไม่อโหสิกรรมให้กับผู้ต้องหา ส่วนตัวแล้วไม่อยากให้มาขอขมาเพราะกลัวอดใจไม่ได้ ปกติแล้วแฟนของตนเป็นคนดี ไม่เคยมีปากเสียงกับใคร เคยเตือนแฟนของตนหลายรอบแล้วว่าอย่าให้คนอื่นยืมเงิน เรื่องของคดีนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไป แต่อยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษหนักที่สุด ประหารชีวิตได้ก็ให้ประหาร เพราะชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image