กรมอุทยาน เผยผลงานเด่นรอบ 4 ปี ป่า-รายได้-นักท่องเที่ยวเพิ่ม

กรมอุทยาน เผยผลงานเด่นรอบ 4 ปี ป่า-รายได้-นักท่องเที่ยวเพิ่ม

วันที่ 11 มีนาคม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า การดำเนินของกรมอุทยานฯ ช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา คือ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 – 2561 ภายใต้การบริหารงานของพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ได้มีการวางแผนงานและมอบนโยบาย พร้อมทั้งกำหนดทิศทางการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ไว้ 5 ประการ ได้แก่ 1. การสร้างความเชื่อว่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ มรดกอันล้ำค่าของแผ่นดิน ซึ่งต้องรักษาไว้ และนำมาใช้ประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน 2. แก้ไขปัญหา ต้องไม่มีวาระผลประโยชน์ทางการเมือง และผลประโยชน์ส่วนตน 3. การสร้างเครือข่ายประชาชนในการช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4. ผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล และ 5. ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้ความเข้าใจ สามารถปฏิบัติงานได้จริง ดังนั้นต้องมีกระบวนการถ่ายทอดคำสั่งที่ชัดเจน ให้ผู้ปฏิบัติเกิดความเข้าใจ สามารถปฏิบัติได้จริง และเกิดความเบี่ยงเบนน้อยที่สุด

นายธัญญา กล่าวว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา กรมอุทยานมีผลงานเด่นเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะชน คือ 1. การจัดเก็บเงินรายได้อุทยานแห่งชาติที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 มีการจัดเก็บเงินรายได้ จำนวน 696.3 ล้านบาท ขณะที่ในปี พ.ศ.2561 มีการจัดเก็บเงินรายได้ จำนวน 2,664.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 1,968 ล้านบาท ซึ่งมากกว่า 4 เท่าตัว 2. เพิ่มพื้นที่ป่าเพื่อคืนความสุขให้ประชาชนตามโครงการ “ป่าในเมือง” 3. ภารกิจการเพิ่มพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อสนับสนุนการเพิ่มพื้นที่สีเขียว 55% ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รักษาพื้นที่ป่าของประเทศที่มีอยู่ 102.4 ล้านไร่ ให้มีสภาพสมบูรณ์ การใช้ระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (SMART PATROL SYSTEM) ระบบเฝ้าระวังและต่อต้านการกระทำผิดด้านทรัพยากรป่าไม้ จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) จัดตั้งชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำผิดด้านสัตว์ป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ระบบติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่อนุรักษ์ด้วยการประมวลผลข้อมูลดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนมาตรการป้องกันไฟป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่ป่า

นายธัญญา กล่าวว่า 4.การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์เพื่อประชาชน มีแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินราษฎร ที่ประกอบด้วย หลักการจัดการที่ดินชุมชนที่จะได้รับการพัฒนาต้องเป็นชุมชนที่อาศัยอยู่เดิม ให้มีการจัดการที่ดินให้แก่บุคคลภายนอกพื้นที่ ต้องมีการกำหนดขอบเขตพื้นที่ทำกินที่เป็นที่ยอมรับร่วมกันและเป็นการให้สิทธิ์ทำกินไม่ให้เอกสารสิทธิ แนวทางการดำเนินการจัดการที่ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก คือ การสำรวจครอบครองที่ดินและการบริหารจัดการพื้นที่ (โซนนิ่ง) ในการสำรวจครอบครองที่ดิน ให้แต่ละพื้นที่ป่าอนุรักษ์ประกาศกำหนดให้ราษฎรแต่ละชุมชนมีการครอบครองทุกรายและชุมชนที่ดินแปลงใดที่อยู่ภายหลังมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 30 มิถุนายน 2541 ให้ตรวจสอบว่าเป็นผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อยและผู้ที่ไร้ที่ดินทํากิน ตามคำสั่งคสช.ที่ 66/2557 หรือไม่ หากมีคุณสมบัติถูกต้องให้จัดระเบียบการครอบครองที่ดิน ด้านผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ให้เจรจาออกจากพื้นที่หรือดำเนินการตามกฎหมายและทำการรวบรวมผลการตรวจสอบและการจัดระเบียบการครอบครองที่ดินที่มีการกำหนดแนวเขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์ที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย แล้วเสนอให้คณะกรรมการระดับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์หรือสำนักงานพื้นที่เขตสาขา ที่มีความเห็นชอบผลการทำงานของคณะทำงานให้ได้ ก่อนรายงานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อพิจารณาต่อไป

Advertisement

5.ระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพ หรือ ระบบการเดินลาดตระเวนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์อย่างเป็นระบบ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องกันปราบปรามและจัดการพื้นที่ 6. การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทักษ์ป่าด้านสวัสดิการและการก่อตั้งมูลนิธิผู้พิทักษ์ป่า สำหรับโครงการซ่อมแซมบ้านพักผู้พิทักษ์ป่าของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า 7.การผ่านร่างพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ฉบับใหม่ ที่ส่งผลดีต่อประชาชนและจะได้รับประโยชน์หลายด้าน ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างความสมดุลระหว่างการอยู่ของชุมชนในอุทยานแห่งชาติและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีประชาชนอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์กว่า 2,700 ชุมชน รวมพื้นที่ประมาณ 5.9 ล้านไร่ ซึ่งพ.ร.บ.ฉบับบนี้ได้มอบอำนาจให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ มีอำนาจในการอนุญาตให้ประชาชนที่อาศัยหรือทำกินอยู่แล้วในเขตป่าอนุรักษ์ สามารถทำกินและเข้าไปอยู่ได้ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เขตป่าอนุรักษ์ สามารถเข้าไปเก็บหาของป่าหรือใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ได้ เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image