นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ จีพีเอสซี เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการธุรกรรมซื้อหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) จาก บริษัท เอ็นจี โกลบอล ดีเวลลอปเม้นท์ บี.วี. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโกลว์ในสัดส่วน 69.11% โดยชำระค่าหุ้นราคาหุ้นละ 91.9906 บาท มูลค่าประมาณ 9.3 หมื่นล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ขั้นตอนต่อไปบริษัทเตรียมเงินจำนวน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของกิจการ(เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) สัดส่วนประมาณ 30.89% ของหุ้นทั้งหมดของโกลว์ในสัดส่วนที่เหลืออีกจำนวน 30.89% ในวันที่ 22 มีนาคม 2562 เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ใช้เวลาประมาณ 25-45 วันจะรู้ผลการทำคำเสนอซื้อทั้งหมด จากนั้นจะดำเนินการเพิกถอนหุ้นโกลว์ออกจากตลท.ใน1ปี หรืออย่างเร็วที่สุดภายในปลายปีนี้หากมีผู้ถือหุ้นแสดงเจตนาขายหุ้นโกลว์รวมกันเกิน 80%ของทุนจดทะเบียน
นายชวลิตกล่าวว่า บริษัทยังเตรียมปรับโครงสร้างทางการเงินใหม่เพื่อรองรับแผนการเข้าซื้อโกลว์ในกรอบวงเงิน 1.4 แสนล้านบาท คาดว่าจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการได้ในปลายไตรมาส 2 ปีนี้ และเบื้องต้นจะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกไม่เกิน 7.4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการในช่วงไตรมาส 3 และปรับหนี้ระยะสั้นเป็นหนี้ระยะยาว โดยบริษัทได้ใช้เงินกู้ระยะสั้นจาก บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) และ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่วงเงินประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท และเงินกู้ระยะสั้น 1 ปีจากธนาคารวงเงินกว่า 1 แสนล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นโกลว์ การดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้ภาระหนี้สิน/ทุน (D/E) ของบริษัทพุ่งเป็นกว่า 3 เท่า แต่คาดว่าภายหลังการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯและปรับเงินกู้ระยะสั้นเป็นเงินกู้ระยะยาว D/E จะลดลงเหลือไม่เกิน 1 เท่า โดยการรวมกิจการดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 1,955 เมกะวัตต์รวมเป็น 4,726 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นอันดับ 4 ของประเทศ รองจาก บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป
