เหลืออีก 6 วันเท่านั้นเอง จะถึงเวลาต้องลงคะแนนเลือกตั้งกันแล้ว
หลังจากขับเคี่ยวกันมาพักใหญ่ มีทีเด็ดไพ่ตายอย่างไร ปล่อยออกมาประชันกันอย่างดุเดือด
พรรคพลังประชารัฐพยายามจะนำบิ๊กตู่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาขึ้นเวทีหาเสียงเพื่อเรียกคะแนนจากแฟนคลับ
แต่สุดท้าย ทีมงานรอบตัว กุนซือกฎหมายเห็นว่าเสี่ยงเกินไป นั่งทำงานเซฟๆ ในทำเนียบดีกว่า
เลยต้องใช้วิธีปล่อยคลิปไปเปิดตามเวทีต่างๆ และเดินสายตรวจราชการ
เวทีของพลังประชารัฐในระยะนี้ คนฟังแน่น แกนนำเดินทางไปปรากฏตัวพร้อมหน้าพร้อมตา
สะท้อนความไม่ธรรมดาในระบบจัดการหาเสียงของพรรค แม้จะมีเสียงบ่นว่าระบบการตัดเกรด ส.ส.เป็น A B C เพื่อจัดกำลังสนับสนุน เกิดปัญหาขึ้นก็ตาม
นั่นคือเรื่องของการหาเสียง แต่จะได้คะแนนเสียง ได้ ส.ส.มากน้อยแค่ไหนยังต้องลุ้นกันต่อไป
แกนนำทุกระดับยืนยันว่า ผลเลือกตั้งออกมาต้องมี 100 ขึ้น
ส่วนพรรคตัวเต็งเดิม โพลของเพื่อไทยปล่อยออกมาวันก่อน ประกาศว่าได้ 190 เสียง
ปฏิกิริยาจากพรรคอื่นๆ ยอมรับสภาพ ไม่ได้ออกมาโต้เถียง
เพื่อไทยยังแรงรอบนี้ ด้วยเครดิตเดิมๆ คือการเป็นฝ่ายถูกกระทำจากสถานการณ์การเมืองโดยตลอด
เรียกว่า มีฝ่ายตรงข้ามช่วยหาเสียงให้มาตลอด
ปัญหาของพรรคเพื่อไทยคือส่งผู้สมัครเพียง 250 เขต ไม่ครบ 350 เขต ทำให้หมดโอกาสเก็บ ส.ส.เขตเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์ที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ
ส่งผู้สมัครเพียง 250 เขต เพื่อไทยออกข่าวว่าจะเข้าถึง 190-200 เสียง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ถือว่าสูงมาก
ถ้าเข้าตามนี้จริง ก็จะปักหลักเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก และน่าจะได้ตำแหน่งประธานสภา
ผู้แทนฯ และประธานรัฐสภา
อีกพรรคที่ยิ่งมายิ่งแรง คือ พรรคอนาคตใหม่
กระแสความนิยมไม่ได้เฟื่องอยู่เฉพาะคนรุ่นใหม่ หรือนิวโหวตเตอร์เท่านั้น แต่ยังไปถึงรุ่น 40-50-60 ก็ยังมี
ด้วยกระแสบอกต่อของเยาวชน กระแสบอกต่อในครอบครัว ที่รับข่าวสารผ่านออนไลน์แล้วชื่นชอบ
2 พรรคนี้จะเป็น “กระดูกชิ้นโต” สำหรับพรรคที่ได้จัดตั้งรัฐบาล
มองจากนาทีนี้และนาทีหน้าในโค้งสุดท้าย 6-7 วันนี้
แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นหลัง 24 มี.ค. เกจิการเมืองทุบโต๊ะเอาไว้หลายแนวทาง
แนวทางหนึ่งระบุว่ามีทางตันรออยู่ อันเป็นผลของการขึงพืดเป็น 3 ขั้ว จนตั้งรัฐบาลไม่ได้แล้ว และอาจต้องไปคิดเรื่อง “คนนอก” ตามบทเฉพาะกาล
อีกแนวทางหนึ่งเห็นว่าจะได้มากได้น้อยอย่างไรก็ตาม รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยที่สอง จะเกิดขึ้นอย่างไม่ยากนัก
เพราะตามที่ดีไซน์ไว้ รัฐบาลนี้ต้องการเสียงจากสภาผู้แทนฯ อีกแค่ 126 เสียง เพื่อไปผสมกับ 250 เสียงของ ส.ว.
โดยมีพรรคขนาดกลางและเล็กสนับสนุน ซึ่งคงจะปรึกษาหารือกันไปเยอะแล้วระหว่างรอผลคะแนน
ส่วน ปชป.อาจกระหืดกระหอบจะเข้ามาในตอนท้ายๆ ก่อนรถไฟออกจากสถานี
ปัญหาสำคัญคือ รัฐบาลที่มีเสียงในสภาผู้แทนฯ ไม่เด็ดขาด คงยากที่จะอยู่ได้ยาวๆ เหมือนที่เป็นมา 5 ปี ก่อนหน้านี้
จะเกิดปัญหาเสถียรภาพที่อาจเป็นเงื่่อนไข
นำไปสู่ความวุ่นวายทางการเมืองอีกครั้ง
ความวุ่นวายนี้ อาจจะจบด้วยการยุบ
สภา เลือกตั้งใหม่ หรือ “หนทางอื่น” ยังไม่มีใครรู้
การยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ก็อาจเห็นชัดว่าผลคะแนนจะซ้ำรอยเดิม แล้วก็ต้องไปติดล็อกที่ดีไซน์ไว้อีก จะอยากให้เลือกซ้ำอีกหรือไม่ยังสงสัย
ส่วนหนทางอื่น จะเป็นช่องทางไหนอย่างไร ยังเป็นแนวความคิดที่คาดการณ์กันไป
นั่นคือ ฉากการเมืองที่จะเกิดขึ้นหลัง 24 มี.ค.
เส้นทางประยุทธ์ Episode 2 ยังต้องฟันฝ่าแก้ปัญหาอีกมาก
