ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2562 ว่า เป็นการสำรวจความเห็นจากประธานหอการค้าและกรรมการหอการค้าของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 377 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-8 มีนาคม 2562 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นฯเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 48.5 เทียบเดือนมกราคม 2562 อยู่ที่ 48 ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าเกณฑ์ที่ต้องเกิน 50 ขึ้นไป ดังนั้นยังต้องเฝ้าระวังในเรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบกระจุก ไม่กระจายตัว จะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงต้นปีนี้ยังไม่ดีมากนัก
นายธนวรรธน์ กล่าวว่าปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ดัชนีฯเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ กิจกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะการหาเสียงเลือกตั้งที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 2 เป็นต้น ส่วนปัจจัยลบ อาทิ ระดับราคาน้ำมันขายปลีกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพ และระดับราคาสินค้าที่อยู่ในระดับทรงตัวและสูง และความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน อย่างไรก็ตาม อีก 2 เดือนข้างหน้าผู้นำของสองประเทศดังกล่าวจะหารือกัน แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรคาดว่าไทยจะไม่ได้รับผบกระทบมากนัก
“ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ แม้ว่าจะเจอสถานการณ์การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก อาทิ สงครามการค้า สถานการณ์เบร็กซิท และการที่เอกชนหลายรายทั้งในประเทศและต่างประเทศรอดูหน้าตาของรัฐบาลใหม่ว่าไทยจะได้ใครมาบริหารประเทศ เป็นต้น ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยมีการชะลอตัวตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 แล้ว”
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ส่วนปี 2562 คาดว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกจะโตประมาณ 3.5% และครึ่งปีหลังคาดว่าจะโต 4% เฉลี่ยทั้งปีนี้จะโตประมาณ 3.8% โดยต้องติดตามสถานการณ์เรื่องการเมืองว่าหลังจากเลือกตั้งมีรัฐบาลชุดใหม่แล้วจะมีการเร่งพัฒนาในเรื่องใดบ้าง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นการทำงานของรัฐบาลใหม่ผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้หรือในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้
นายธนวรรธน์ กล่าวในความเห็นส่วนตัวว่า สิ่งที่รัฐบาลใหม่จะต้องดำเนินการเร่งด่วน คือการกระจายความเจริญสู่ชุมชนระดับฐานราก พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
