เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความคืบหน้ากรณีนายเอกลักษณ์ ตะโกเนียม อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี โพสต์เฟซบุ๊กว่าถูกเจ้าหน้าที่ทางลาวกักตัว บริเวณหมู่บ้านโคกป่าทอน เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศลาว หลังเดินทางข้ามแดนจากด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จึงขอความช่วยเหลือกับทางการไทย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เวลา 18.20 น. นายเอกลักษณ์ ได้รับการปล่อยตัว มีนายกิตติศักดิ์ หล่อปฏิมากร รองกงสุลใหญ่ประจำแขวงสะหวันเขต สปป.ลาว เดินทางมาส่งด้วยตนเองโดยข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 ขณะด้านฝั่งไทยมีนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รอง ผวจ.นครพนม นายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนม และ พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม รอต้อนรับหลังผ่านกระบวนการตรวจสอบเอกสารแล้ว เจ้าหน้าที่ ตม.ได้พานายเอกลักษณ์มาแถลงข่าว
นายเอกลักษณ์ เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี เนื่องจากคุณแม่ถูกทำร้ายที่ฝั่งลาว จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม จากนั้นได้ว่าจ้างรถโดยสารของประเทศลาว พาข้ามแม่น้ำโขงไปเพื่อจะแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจลาว กรณีที่คุณแม่ถูกทำร้ายจากคนไม่ทราบชื่อและสัญชาติ แต่ด้วยที่ตนไม่ทราบกฎหมายของประเทศลาว จึงไม่ได้แจ้งวัตถุประสงค์กับผู้นำชุมชน จนเกิดความเข้าใจผิดกัน จึงเป็นที่มาของการถูกควบคุมตัว และด้วยความกลัวจึงโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ทางการลาวจึงไม่พอใจที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ ความจริงตนเป็นผู้เข้าไปกระทำความผิดกฎหมายของประเทศเขาเอง จึงขอโทษผู้ใหญ่ที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย แต่ต้องขอบคุณทางการลาวที่ดูแลตนเป็นอย่างดี
นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่าอยากให้สังคมโซเซียลตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบต่อความมั่นคง หลังเกิดเหตุการณ์สถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงเวียงจันทน์ ได้ประสานกับเจ้าแขวงคำม่วน พร้อมให้กงสุลใหญ่ประจำแขวงสะหวันเขต เร่งเดินทางมาสอบถามข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันทางจังหวัดนครพนม โดยนายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม ประสานกับเจ้าแขวงคำม่วน เพื่อเจรจาขอปล่อยตัว ซึ่งทางการลาวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ และไม่ได้ปรับสินไหม การจะเดินทางเข้าประเทศใดจึงแนะนำให้ศึกษาข้อกฎหมายให้ถ่องแท้ การท่องเที่ยวก็จะมีความสุข
