นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% โดยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากราคาสินค้าพลังงาน ขณะที่ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพดี แต่ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกและปัจจัยภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ย เพื่อรอประเมินผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว ทั้งนี้ กนง. มองการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้แย่ลง คาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ปี 2562 ขยายตัวเพียง 3.8% ลดลง 0.2% จากการประเมินครั้งก่อน ปัจจัยที่ถูกปรับลดลงมากที่สุด คือปริมาณการส่งออก ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน คาดว่าจะเหลือการขยายตัวเพียง 3.1% จากเดิมมองว่าจะขยายตัวได้ถึง 4.1% ขณะที่แนวโน้มการลงทุนของภาครัฐก็คาดว่าจะขยายตัวได้เพียง 6.1% ลดลง 0.5% เนื่องจากการลงทุนที่ล่าช้าของรัฐวิสาหกิจ
นายจิติพลกล่าวว่า มติ 7 ต่อ 0 และการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ ลดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น แม้เหตุผลที่ กนง.ใช้ในการตัวสินใจคือความเสี่ยงระยะสั้น แต่เราเชื่อว่ากนง.กำลังส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจไม่แข็งแกร่งเหมือนปีก่อน จึงมีความเป็นไปได้สูง ที่จะเห็นดอกเบี้ยนโยบายหยุดที่ระดับ 1.75% ไปจนกว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน ประเด็นที่ต้องติดตามคือเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยหลังเลือกตั้ง ในกรณีพื้นฐาน มองว่าสหรัฐและจีนจะสามารถหาข้อตกลงทางการค้าได้ปีนี้ซึ่งจะช่วยฟื้นแนวโน้มการส่งออก ขณะที่ในฝั่งเศรษฐกิจไทย ก็อาจฟื้นตัวได้เมื่อการเมืองมีเสถียรภาพ เพราะปัจจัยดังกล่าวสามารถเพิ่มความเชื่อมั่นได้ทั้งในด้านการลงทุนและการบริโภค
“มองว่า กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยได้ในครึ่งหลังของปีนี้ โดย กนง.จะกลับมาสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยได้ตั้งแต่การประชุมช่วงกลางปี และเรายังคงมุมมองเดิมว่า กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไปที่ระดับ 2.0% ได้ภายในสิ้นปี 2562” นายจิติพล กล่าว
