เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลตำบลคลองขุดได้เร่งสำรวจความเสียหายหลังเกิดเหตุพายุฝนพัดกระหน่ำ ส่งผลให้บ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล กว่า 40 ครัวเรือนได้รับผลกระทบหลังคาบ้านปลิวไปกับแรงลม โดยเฉพาะบ้านยกพื้นไม้หลังคาสังกะสีซึ่งเป็นบ้านโบราณอายุ 100 ปี ของนางอนงค์ ใบหลี 50 ปี บ้านเลขที่ 46 หมู่ที่ 7 ต.คลองขุด เล่าว่า พายุฝนได้พัดพาสังกะสีปลิวหายไปหลายสิบแผ่น โดยเจ้าของบ้านยอมรับว่า นาที่ที่พายุฝนเข้าพร้อมฟ้าร้องและฝนกระหน่ำตนต้องวงหนีไปหลบอยู่ในบ้านเพื่อนบ้าน เพราะฟ้าร้องดังมากและตัวบ้านสั่นเกรงว่าจะเกิดพายุพัดพาบ้านพัง
นอกจากนี้พายุฝนยังส่งผลให้ต้นไม้ขนาดใหญ่อย่างต้นตะขบป่า, ต้นกระถิ่นอายุนับสิบปีหักโค่นทับรถยนต์ 12 ล้อและต้นไม้พาดสายไฟ รวมทั้งต้นยางพาราหักโค่นล้มชนิดถอนรากถอนโคน
ขณะที่หมู่ที่ 4 ต.คลองขุด นางจริยา สุขศรีสังข์. 53 ปี ผู้ดูแลคลองขุดกาเด้นวิว เล่านาทีหนีตายซ่อนตัวภายในสำนักงานว่าขณะนี้ฝนตกหนักและฟ้าร้องดังมาก จู่ๆลมได้พาเสาไฟฟ้าหักโค่นทับต้นไม้หน้าสำนักงาน ระหว่างนั้น ตนก็ไม่กล้าออกมาดูจนลมฝนสงบ พบว่าเสาไฟฟ้าได้หักลงโชคดีที่ไม่ทับสำนักงานไม่งั้นพวกตนคงได้รับบาดเจ็บจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้แน่นอน ขณะนี้ไฟฟ้าได้เข้ามาดูและช่วยตั้งไฟสำรองให้แล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนยอมรับว่ากลัวและตกใจมาก
นางสุนีย์ รัตนฐากูร เจ้าของร้านอาหารสุข บริเวณใกล้เคียงเสาไฟฟ้าหักโค่น กล่าวว่า วันนี้ทางร้านปิดให้บริการสำรวจความเสียหายก่อน เนื่องจากสะพานข้ามไปร้านและข้าวของได้รับความเสียหาย ซึ่งเทศบาลและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแลแล้ว ก็คงจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติที่พวกตนก็ยอมรับสภาพ ซึ่งก็ไม่คาดคิดว่าต้นไม้ที่ขึ้นจำนวนมากเอาไว้เพื่อความร่มรื่นจะกลับหักโค่นสร้างความเสียหายจนได้
สำหรับพื้นที่ ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล ได้รับความเสียหายเบื้องต้นอยู่ระหว่าการสำรวจแล้ว 40 หลังคาเรือน ในหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 3, 4 และหมู่ที่ 7 ซึ่งขณะนี้ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มฝนอยู่ชาวบ้านต่างเฝ้าระวังภัยพายุพัดซ้ำอีกครั้ง
