นายอํานวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างเร่งรัดจัดทำราคาประเมินที่ดินใหม่ ประกาศบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563 พบว่าราคาที่ดินเฉลี่ยทั่วประเทศปรับเพิ่มขึ้น 10-20% สูงกว่าในรอบปี 2559 ที่มีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 10% โดยราคาประเมินที่ดินรอบใหม่เพิ่มขึ้นมากเนื่องจากโครงการรัฐเกิดขึ้นมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งที่ดินบริเวณภาคตะวันออก ได้รับผลดีจากเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน(ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน) ที่ดินอยู่ใกล้กับเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ต่าง ๆ ราคาปรับสูงขึ้นมาก ส่วนที่ดินกทม.ราคาปรับสูงเช่นตามแนวรถไฟฟ้า ย่านรัชดา บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ เนื่องจากมีการขยายเมืองไปยังพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น
แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์เปิดเผยว่า จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า ที่ดินย่านสีลมเคยมีราคาประเมินสูงสูด 1 ล้านบาทต่อตารางวา(ตร.ว.) พบว่าล่าสุดราคาซื้อขาย 2-3 ล้านบาทต่อตารางวา หรือราคาซื้อขายสูงกว่า ราคาประเมิน 1-2 เท่าตัว ในการจัดทำราคาประเมินจะใช้ราคาซื้อขายจริงมาอ้างอิงประมาณ 70-80% สำหรับที่ดินตามแนวรถไฟฟ้ามีราคาปรับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% พบว่ามีทั้งการซื้อขายเพื่อนำไปพัฒนาและซื้อขายเพื่อเก็งกำไร ส่วนราคาแถวอีอีซีราคาปรับเพิ่มขึ้นมานานกว่า 1-2 ปี บางแปลงราคากระโดดขึ้น 100%
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ในจังหวัดมีราคาปรับเพิ่มมาก เช่น ในจังหวัด ชลบุรี ระยอง ผลจากอีอีซี และไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน หาดใหญ่ สงขลา หนองคาย มุกดาหาร จากเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในภาคอีสาน เช่น จังหวัดบุรีรัมย์ มีเป็นเมืองกีฬาทั้งเรื่องฟุตบอล การแข่งรถ ส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย เคยเป็นพื้นที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก แต่ใน 1-2 ปี นี้เจอปัญหาฝุ่นพิษPM 2.5 จึงทำให้ล่าสุดราคาไม่ขยับมาก
“ในการประเมินราคาที่ดินปกติทำทุก 4 ปี แต่จากนี้ไปมีนโยบายให้ดำเนินการทุก 2 ปี รอบที่จะประกาศใช้ 1 มกราคม 2563 จะใช้ไปจนถึง 31 ธันวาคม 2564 หลังจากนั้นปรับราคาประเมินใหม่”แหล่งข่าวกล่าว
