กสิกรไทยหั่นจีดีพี’62โต3.7% คาดรบ.ใหม่อัดมาตรการกระตุ้นเร่งด่วน 2-3หมื่นล้านบ. พยุงเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง

นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยในงาน “จับอุณหภูมิเศรษฐกิจไทยหลังเลือกตั้ง” จัดโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่น่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนมิถุนายน 2562 โดยรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลขั้วใดจะต้องเผชิญกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจไทย ดังนั้น รัฐบาลใหม่จะต้องมีมาตรการเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นผ่านการบริโภคครัวเรือน เพราะเป็นมาตรการที่ทำแล้วเห็นผลทันที อาทิ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย 15.6 ล้านคน เพิ่มสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย 14.5 ล้านคน และมาตรการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา 10.3 ล้านคน โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณราว 2-3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีผลต่ออัตราการขยายตัวเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 0.2-0.4%

“ถ้าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เป็นไปตามไทม์ไลน์ที่วางไว้แล้วเสร็จเดือนมิถุนายน มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี รัฐบาลใหม่จะสามารถนำงบประมาณไตรมาสสุดท้าย ของปีงบประมาณ 2562 มาใช้สำหรับเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน หรืออาจจะผ่านร่างงบประมาณปี 2563 มาใช้ได้ เช่น การเพิ่มรายได้เกษตรกร การพักชำระหนี้ ขยายมาตรการบัตรสวัสดิการต่อเนื่องจากที่จะหมดอายุในเดือนกันยายน มาตรการรถไฟฟรี รถเมล์ฟรี หรือช้อปช่วยชาติ” นางสาวณัฐพร กล่าว

Advertisement

นางสาวณัฐพร กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้ ช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางที่ดีกว่าครึ่งปีแรกหลังจากที่สถานการณ์ต่างๆ ชัดเจน และมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร ทำให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยฯยังออกสำรวจความเห็นของภาคประชาชนและภาคธุรกิจในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้ง พบว่า การเลือกตั้งส่งผลดีต่อความเชื่อมั่น ซึ่งจากการสำรวจพบว่า 47.5% ของคนไทยมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งในจำนวนนี้มี 50.6% คาดหวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและนำไปสู่เศรษฐกิจที่ดีขึ้น และมี 35.7% เป็นกลุ่มที่มีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจลดลง ในจำนวนนี้พบว่ามี 36.8% กังวลประเด็นเสถียรภาพการเมือง ส่วนที่เหลืออีก 16.8% มองความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยเท่าเดิม

นางสาวณัฐพร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ปี2562 ลงมาที่ 3.7% จากเดิม 4.0% หรือกรอบประมาณการที่ 3.2-3.9% ซึ่งการปรับลดประมาณการเป็นผลจากการส่งออกที่ชะลอตัวลงจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าและผลจากสงครามการค้าสหรัฐและจีน คาดส่งออกเติบโตเพียง 3.2% จากเดิม 4.5% ด้านการนำเข้าชะลอตามการส่งออก คาดเติบโต 4.3% จากเดิม 5.3% และได้ปรับลดประมาณการการลงทุนรัฐลงมาที่ 5.0% จากเดิม 7.0% เนื่องจากการเบิกจ่ายที่ล่าช้าและ ด้านการบริโภคภาครัฐทรงตัวที่ 2.5% เช่นเดียวกับการบริโภคเอกชน และการลงทุนเอกชนที่ทรงตัวในระดับเดิมที่ 3.6% และ 4.0% ตามลำดับ การท่องเที่ยวยังขยายตัวดี คาดจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้อยู่ที่ 40 ล้านคน ราว 40 ล้านคน โดยสัดส่วนเป็นนักท่องเที่ยวจีนราว 1 ใน 3 ด้านแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายคาดว่าจะคงที่ระดับ 1.75% ต่อปี ตลอดทั้งปี 2562 และค่าเงินบาทปีนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.20-32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

“เศรษฐกิจครึ่งปีแรก 2562 ยังไม่แรงแรงหนุนและปัจจัยกระตุ้น มองว่าจีดีพีไตรมาสแรกจะขยายตัวได้ราว 3.5% และครึ่งปีแรกขยายตัว 3.3% ส่วนครึ่งปีหลังคาดขยายตัวได้ใกล้เคียง 4% ทำให้ทั้งปีขยายตัวราว 3.7% โดยปัจจัยเสี่ยงที่ต้องตามในประเทศจากสถานการณ์การเมืองกรณีการจัดตั้งรัฐบาลมีความล่าช้า หรือจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศต้องติดตามว่าทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลกจะชะลอตัวมากกว่าที่ประเมินไว้หรือไม่” นางสาวณัฐพร กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image