นิวส์รูมวิเคราะห์ : อยู่ในมือใคร !! เซ็ตซีโร่ :จำยอมจ่ายค่ายาโหด

ความพยายามที่จะทำอย่างไรให้ราคายาและเวชภัณฑ์ รวมถึงค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ และค่าบริการอื่นเมื่อประชาชนผู้ป่วยต้องเข้ารักษาในสถานพยาบาลของเอกชน ของกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน กำลังคืบหน้าไปด้วยดี

ตามแผนโรดแมปในเรื่องนี้ ล่าสุดมาถึงขั้นสั่งการให้โรงพยาบาล ผู้ผลิตและผู้ค้าที่เกี่ยวข้อง จัดส่งข้อมูลและรายละเอียดต้นทุนราคา ราคาขายส่ง และราคาขายปลีก(ที่มักดูได้จากข้างกล่องยา)ภายในวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาที่ได้เลื่อนออกมาให้แล้วตามคำขอของภาคเอกชน

แต่ก็พบว่ามีโรงพยาบาล 58 แห่งไม่ได้ส่งมอบข้อมูลตามกรอบเวลา ยังไม่นับรวมกับบริษัทค้ายาและสถานจำหน่ายยาอีกหลายร้อยราย ซึ่งก็มีความเป็นไปได้อาจขอผ่อนปรนยืดเวลาไปอีก 7-15 วัน เพราะยังติดในเรื่อง”ความลับทางการค้า”ในประเด็นการกำหนดราคาขายที่แตกต่างกันระหว่างผู้ค้ายากับโรงพยาบาลก็เหมือนกัน ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค กับ กำหนดราคาขายส่งให้กับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ กับ ร้านค้าทั่วไป(โชวห่วย) ซึ่งมีความแตกต่างกันมาก ทำให้ส่วนใหญ่จึงส่งราคาขายปลีกที่ติดไว้ข้างกล่องยาแทน เพราะอย่างไรก็เหมือนกัน แต่จะขายเท่าไหร่นั้น ผลักเป็นเรื่องของผู้ขายหรือโรงพยาบาลนั้นเอง

ขณะที่ข้อมูลกว่าครึ่งเมื่อเทียบเคียงกันเองระหว่างโรงพยาบาลพบว่าบางกลุ่มยา เวชภัณฑ์ แตกต่างกันไม่น้อยกว่า 30% ถึงเกือบ 300% รวมถึงส่วนใหญ่เป็น”โรงพยาบาลยอดนิยม” มีทีมการแพทย์เป็นแม่เหล็กที่ทำให้ผู้ป่วยต้องเลือกเข้ารักษาในโรงพยาบาลแห่งนี้

Advertisement

รวมถึงเมื่อย้อนกับไปดู”อำนาจในมือตามระเบียบราชการ”เอง ก็ยังไม่เอื้อว่าจะอะไรได้ตามใจอยากให้เกิดผลลัพธ์โดยเร็ว

สอดรับพอดีกับการชี้แจงของกรมการค้าภายใน ในฐานะคณะทำงานเพื่อพิจารณาราคายาและเวชภัณฑ์ฯ ถึงปลายทางที่สุดแล้วจะเอาบทลงโทษอย่างไรมาใช้ตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ที่มีโทษจำคุกหรือปรับ อยู่ที่ดุลพินิจคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯพาณิชย์ เป็นประธานในตำแหน่ง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีเพียงรัฐมนตรีช่วยฯรักษาการแทน และยังไม่ชัดเจนว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบจะเกิดขึ้นในคณะรัฐมนตรีนี้หรือคณะรัฐมนตรีชุดใหม่หลังเดือนมิถุนายน

ดังนั้นเพื่อให้เดินได้ตามโรดแมป ก็ย้อนกลับไปแนวคิดดั่งเดิมคือ จะนำข้อมูลเทียบค่ายา ค่าบริการทางการแพทย์ หลังประมวลข้อมูลจากทุกหน่วยงาน โดยทางการเรียกว่า”ราคาหรือบริการมาตรฐาน” ขึ้นเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ป่วยพิจารณาเองก่อน ในกำหนดที่วางไว้เดือนพฤษภาคมนี้ ที่ดูว่าพ่วงมาด้วยก็คือ ไม่พอใจค่ายาหรือค่าหาหมอที่ถูกเรียกเก็บสามารถฟ้องร้องเอาผิดตามกฎหมายได้ แต่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ป่วยเอง !!!

Advertisement

เหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคและดับฝัน “set Zero ปัญหาเข้าหาหมอที่ถึงกลับหมดตัว” คงต้องวัดใจระหว่างรัฐบาลนี้และรัฐบาลหน้า ใครยอมชี้ชะตา!!!

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image