ย้อนอ่าน เส้นทาง ‘พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล’ ฉายา ‘โจ๊ก หวานเจี๊ยบ’ ก่อนเป็น ขรก.พลเรือน

หลังจากเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2562 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 232/2562  ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) มอบหมาย โดยมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ปรากฏว่าล่าสุดวันนี้ (9 เมษายน 2562) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 2/2562 ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร.เป็น ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งบริหารระดับสูง ในตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสังกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งยังอ้างถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2558 ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามมาตรา 44 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบและการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 โดยประกาศให้ชื่อของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ รวมอยู่ในรายชื่อตามคำสั่งดังกล่าวด้วย

ส่งผลให้วันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ลงนามคำสั่งวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนพิเศษที่ 0007/160 ถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พ้นจากกรรมการชุดปฏิบัติการต่างๆ รวมถึงศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ศูนย์ปราบปรามเงินกู้คืนโฉนดที่ดินด้วย ถือเป็นการพ้นจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยสิ้นเชิง

อ่าน :  เปิดคำสั่งตร. เด้ง “บิ๊กโจ๊ก”พ้นผบช.สตม. ขาดจากตำแหน่ง
อ่าน : ด่วน!”บิ๊กตู่”ใช้ม.44 โอน”บิ๊กโจ๊ก”เป็นขรก.พลเรือน นั่งที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกฯ โดนสอบด้วย
อ่าน : ผีซ้ำด้ำพลอย! ‘ผบ.ตร.’ สั่งปลด ‘โจ๊ก’ พ้นทุกศูนย์ ชุดปฏิบัติการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Advertisement

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ชื่อเล่น โจ๊ก เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2513 ณ จ.สงขลา เป็นบุตรชายคนโตของดาบตำรวจ ไสว หักพาล และนางสุมิตรา หักพาล สมรสกับ ดร.ศิรินัดดา พานิชพงศ์

ด้วยครอบครัวเป็นตำรวจตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จึงมุ่งมั่นว่า “ในการเกิดเป็นลูกผู้ชายนั้น สิ่งสูงสุดของชีวิตคือการได้รับใช้ชาติและทดแทนบุญคุณแผ่นดิน” จึงได้สอบเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 31 ได้รับการจารึกชื่อในแผ่นป้ายทองให้เป็นนักเรียนเตรียมทหารที่มีความประพฤติและการกีฬายอดเยี่ยมประจำปีการศึกษา 2532

ในขณะศึกษายังได้เป็นประธานนักกีฬาเทนนิสโรงเรียนเตรียมทหารและได้สร้างชื่อเสียงให้แก่สถาบันด้วยการนำทีมเทนนิสชนะเลิศกีฬา 4 เหล่าทัพ และกีฬากองทัพไทยในปีเดียวกัน

Advertisement

สอบเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สังคมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม (สศ.ม.) ณ มหาวิทยาลัยมหิดล และปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

เส้นทางสู่เกียรติยศจักรดาว

เริ่มต้นชีวิตรับราชการตำรวจในกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเป็นสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 5 (เชียงใหม่) จากนั้นได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายตำรวจราชสำนักเวร ก่อนจะได้รับแต่งตั้งจากวุฒิสภาให้เป็นกรรมาธิการวุฒิสภา และผู้ปฏิบัติงานประจำสมาชิกวุฒิสภา

ตามด้วยได้รับแต่งตั้งให้แก้ไขปัญหาปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติในตำแหน่งผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยริเริ่มนำเครือข่ายตำรวจสากลระหว่างประเทศ (INTERPOL) กระทรวงการต่างประเทศ และ NGO เข้ามาบูรณาการในการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ

โดยได้จับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติที่หลอกลวงเด็กและผู้หญิงเข้าไปค้าประเวณีใน 7 ประทศหลักคือ บาห์เรน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน จีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมทั้งขยายผลการกวาดล้างขบวนการเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติ จำนวน 22 เครือข่ายหลัก ซึ่งส่งเด็กและผู้หญิงไทยออกไปบังคับค้าประเวณียังต่างแดน และได้ช่วยเหลือผู้หญิงชาวไทยกลับคืนสู่บ้านเกิดกว่า 100 ราย พร้อมทั้งประเทศไทยได้รับการเลื่อนจัดอันดับจาก tier 3 ไปเป็น tier 2.5 เป็นประเทศที่ให้ความร่วมมือ สนับสนุนการปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง

ทั้งนี้ ด้วยบุคลิกและปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบกาย กลายเป็นที่มาของฉายา “หวานเจี๊ยบ” พร้อมคำอธิบายเชิงล้อเลียน “ครับพี่ครับ ครับ ครับพี่ ครับ ครับพี่” เป็นคำพูดติดปากของนายตำรวจหนุ่ม ในแวดวงจึงรู้จักในนาม “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ”

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก้าวหน้าในเส้นทางจักรดาวมาตามลำดับกระทั่งเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2562 โดนคำสั่งฟ้าผ่า ให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย และมาถึงวันนี้ (9 เมษายน 2562) ที่โดนคำสั่ง ม.44 ให้เป็นข้าราชการพลเรือน สำกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

ขอบคุณข้อมูล

วารสาร COP’S เกียรติยศจักรดาว 2560 เรื่อง สุรเชษฐ์ หักพาล รอผ่านวันพิสูจน์ตัวเอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เจาะลึกเส้นทางดาวฤกษ์พุ่งเร็ว! อีก 14 ปี ของ ‘สุรเชษฐ์ หักพาล’ นายพลหนุ่ม สู่เก้าอี้ผบช. ถึง เบอร์ 1 สีกากี

สะพัด ย้ายด่วน ‘บิ๊กโจ๊ก’ พ้น ผบช.สตม.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image