ไทยบีเอ็มเอคาดเอกชนออกหุ้นกู้8.5แสนล้านบาท ไตรมาสแรกยอดพุ่ง24%

นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ไทยบีเอ็มเอ) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดตราสารหนี้โดยรวมเติบโตดี โดยในไตรมาส 1/2562 มูลค่าคงค้างรวม 12.96 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% จาก 12.79 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2561 และพบว่า ตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวมีการออกเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และเป็นการออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของไตรมาสที่ 1 โดยส่วนใหญ่เป็นการออกของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิต(เรียลเซคเตอร์) ที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนกลุ่มสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ด้านการลงทุนจากต่างประเทศในช่วงไตรมาส1/2562 นี้ นักลงทุนต่างชาติมีการขายออกสุทธิรวม 42,305 ล้านบาท โดยส่วนมากเป็นการขายออกในตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นเพื่อรับรู้ผลกำไรหลังจากที่ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่แนวโน้มเปลี่ยนเป็นขาขึ้นเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่ยังมีการเข้าซื้อสุทธิในตราสารหนี้ภาครัฐระยะยาว ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2562 ต่างชาติมีมูลค่าการลงทุนสะสมสุทธิในตราสารหนี้ไทยทั้งสิ้น 942,993 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.3% ของมูลค่ารวมตลาดตราสารหนี้ไทย

นายธาดา กล่าวว่า ปีนี้คาดว่ามูลค่าการออกตราสารหนี้ระยะยาวจะอยู่ที่ 750,000-850,000 ล้านบาท จาก 878,000 ล้านบาทในปี 2561 จากการลงทุนขยายกิจการและซื้อกิจการที่ยังมีต่อเนื่อง และสำหรับชำระคืนเงินกู้ธนาคาร โดยคาดว่าจะเป็นการต่ออายุตราสารหนี้ที่ครบกำหนดอายุราว 400,000 ล้านบาท และการออกตราสารชุดใหม่ราว 450,000 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนยังคงติดตามเพื่อรอดูทิศทางและประสิทธิผลของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง

“อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีอยู่ที่ 2.41% จากสิ้นปี 2561 ที่ 2.51% ซึ่งทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยจะคงอยู่ในระดับเดิมที่ 1.75% ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทรงตัวเช่นกัน แต่ยังต้องติดตามทิศทางของกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าออกว่าจะเป็นอย่างไร เพราะมีผลกระทบต่อทิศทางของอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ไทย” นายธาดา กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image