เปิดใจ ‘อ.ซ้ง’ มูลนิธิข้าวขวัญ แอดมินเพจ ปฏิวัติกัญชา

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 เมษายน ชุด ป.ป.ส.ภาค 7 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ทหารมณฑลทหารบกที่ 17 ได้เข้าตรวจค้นภายในมูลนิธิข้าวขวัญ หลังมีการประสานงานมาจาก ป.ป.ส.ภาค 6 ว่า นายเดชา หรือ อาจารย์เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ กับพนักงาน ได้มีการนำน้ำมันกัญชาบรรจุแคปซูล นำไปให้กับวัดป่าวชิรโพธิญาณ หมู่ 1 ต.ท้ายน้ำ อ.โพทะเล จ.พิจิตร เพื่อนำไปแจกจ่ายชาวบ้านในการรักษาโรค จึงได้ทำการเข้าไปตรวจค้นที่มูลนิธิข้าวขวัญ ซึ่งมีที่อยู่ 13/1 หมู่ 3 ถนนเทศบาลท่าเสด็จ 1 ซอย 6 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

ต่อมาพบของกลางและได้ยึดมาทำการตรวจสอบที่ สภ.สระแก้ว พบเป็นต้นกัญชาสด จำนวน 205 ต้น น้ำต้มกัญชา จำนวน 3 แกลลอน น้ำหนัก 25 ลิตร กัญชาผงบด จำนวน 5 ถุง น้ำหนักประมาณถุงละ 100 กรัม เมล็ดกัญชาบรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิด จำนวน 5 ถุง น้ำหนักประมาณถุงละ 250 กรัม เมล็ดกัญชาใส่พลาสติกหูหิ้วสีขาวขุ่น จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 1.750 กรัม และถุงเมล็ดกัญชาขนาดเล็ก น้ำหนักประมาณ 55 กรัม จำนวน 1 ถุง เครื่องบดกัญชาจำนวน 1 เครื่อง กัญชาแห้ง บรรจุพลาสติกหูหิ้ว จำนวน 1 ถุง จากนั้นชุดปฏิบัติการได้ทำการเชิญตัว จนท.มูลนิธิข้าวขวัญ จำนวน 5 คน เพื่อสอบถามข้อมูล ทราบว่าของกลางที่ถูกตรวจยึดดังกล่าว เป็นของนายเดชา หรืออาจารย์เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ซึ่งขณะนี้ได้อยู่ต่างประเทศจะเดินทางกลับในวันที่ 10 เมษายน

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นอย่างละเอียดภายในมูลนิธิ บ้านต้นไม้ บ้านพักคนงาน ซึ่งอยู่ในพื้นที่มูลนิธิ พบกัญชาแห้งอัดเม็ด บรรจุแคปซูล จำนวน 57 เม็ด เมล็ดกัญชาบรรจุถุงพลาสติก จำนวน 8 ถุง รวม 151.49 กรัม กัญชาแห้งบรรจุกระปุกพลาสติกใส น้ำหนักรวม 80.52 กรัม ทั้งนี้ สืบทราบว่าที่นี่ยังมีการเปิดฝึกอบรมให้ข้อมูลเรื่องการปลูกกัญชา และวิธีการสกัดน้ำมันกัญชาให้แก่ผู้เข้าอบรม โดยจะเสียค่าฝึกอบรมรายละ 2,000 บาท ซึ่งจัดมาแล้วจำนวน 10 รุ่น รุ่นละ 40 คน โดยการจองเข้ารับการอบรมติดต่อผ่านเฟซบุ๊ก เพจปฏิวัติกัญชา

จากนั้นได้นำตัว นายพรชัย ชูเลิศ หรือซ้ง อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วย อ.เดชา พร้อมพนักงานของมูลนิธิมาทำการสอบปากคำที่ สภ.สระแก้ว ซึ่งนายพรชัยให้การยอมรับว่า ตนเป็นหนึ่งในแอดมินเพจ ปฏิวัติกัญชาดังกล่าว รวมถึงร่วมเป็นวิทยากรแก่ผู้อบรมและถูกตั้งข้อหาผลิตยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 กัญชา และการครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 กัญชา

Advertisement

หลังกระแสข่าวการถูกจับกุม “อ.ซ้ง” แพร่สะพัดออกไป ทำให้มีกระแสการตีกลับจากสังคมมากมายว่า อ.ซ้งไม่ใช่อาชญากร และการทดลองยาจากกัญชานั้น ยังอยู่ในช่วงของการนิรโทษ ทำให้กลุ่มมูลนิธิจาก 3 องค์กร ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เปิดรับบริจาคเงิน ยื่นประกันตัว อ.ซ้ง ที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ในวงเงิน 5 แสนบาท และถูกปล่อยตัว ออกมาจากเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ท่ามกลางความดีใจจากเพื่อนร่วมงาน ผู้ป่วย บรรดาลูกศิษย์ที่มาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม

อ.ซ้ง พรชัย ชูเลิศ วัย อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วย อ.เดชา และทำงานกับมูลนิธิข้าวขวัญมานานถึง 14 ปี เปิดมูลนิธิข้าวขวัญ ตั้งอยู่ที่ 13/1 หมู่ 3 ถนนเทศบาลท่าเสด็จ 1 ซอย 6 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พร้อมเปิดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า เรียนจบด้านการส่งเสริมเกษตร มีความชอบด้านเกษตร ชอบให้ความรู้แก่ผู้สนใจ เคยทำงานด้านวิจัยมาสักพักใหญ่ๆ อยู่ในวงการด้านเกษตรนี่ล่ะ แต่พอ อ.เดชาชักชวนมาร่วมทำงานที่มูลนิธิ ก็มาทำงาน รวมๆ แล้วก็กว่า 14 ปี เป็นคนศรีสะเกษ มาได้ภรรยาที่นี่ ก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เลย มีลูกวัย 6 ขวบ ที่ผ่านมาเราได้เห็นมูลนิธิข้าวขวัญ ซึ่งได้ให้ความรู้เรื่องข้าว เรื่องเกษตรอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมี เพื่อให้เกษตรกรที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

Advertisement

อ.ซ้งกล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้น ไม่ขอพูด ทาง อ.เดชาได้กล่าวไปแล้ว และขอยึดหลักคำพูดของ อ.เดชา ว่าสิ่งที่เราทำคือต้องการช่วยเหลือผู้ป่วยไม่ได้มีเจตนาอื่นใด ต้องการให้ผู้ป่วยทั้งโรคมะเร็ง โรคพาร์กินสัน โรคข้อ โรคลมชัก ได้รับการรักษา พอมาถึงตอนนี้ วันที่เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ตอนนั้น รู้สึกมืดมน รู้สึกว่าถ้าเราได้ไปอยู่ข้างนอกเราอาจทำคุณค่าให้คนอื่นได้อีกมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยที่กำลังรอยาอยู่

“เหตุการณ์ครั้งนี้อย่างน้อยที่สุด เราได้เห็นน้ำใจจากเพื่อนร่วมโลกที่หยิบยื่นมือมาช่วยเหลือ ยิ่งรู้สึกเข้าใจชีวิตว่า ในความมืดมนยังมีแสงสว่างอยู่เสมอ ต้องขอขอบคุณมูลนิธิทั้ง 3 มูลนิธิ ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ให้กำลังใจและช่วยเหลือผม

ส่วนหลังจากนี้ ก็ต้องเป็นเรื่องตามกระบวนการทางด้านคดี และการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป” พรชัยกล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image