สาวไว้ใจทอมโดนหลอกเข้าม่านรูด-ข่มขืน พ่อพาแจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด

จากกรณี คุณพ่อรายหนึ่งร้องเรียนผ่าน เพจทนายคู่ใจ คลายทุกข์ ของทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ว่าลูกสาวอายุ 18 ปี ถูกสาวทอมลวงไปยังม่านรูดข่มขืนกระทำชำเราในพื้นที่ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยเหตุเกิด เมื่อวันที่ คืนวันที่ 12 เม.ย.ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 13 เม.ย.62 ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ น.ส.เอ(นามสมมติ) ผู้เสียหาย กับผู้เป็นพ่อ ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในซอย บางทอง ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยนางสาว เอ ได้เปิดร่องรอยที่ต้นคอให้ดูพร้อม เล่าว่า ตนเองรู้จักกับสาวทอมคนดังกล่าวที่ทำงาน โดยตนเองนั้นทำงานได้ไม่ถึงเดือนซึ่งเพิ่งสนิทกับคนในที่ทำงาน วันเกิดเหตุสาวทอมได้นัดไปนั่งหน้าหาดป่าตอง โดยสาวทอมบอกว่ามีเพื่อนที่รู้จักอีกคนไปด้วย ในเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง สาวทอมขับรถมารับที่หน้าปากซอยทางเข้าบ้าน จึงขึ้นรถไปด้วย เมื่อไปถึงก็นั่งอยู่ที่หน้าหาดป่าตอง จากนั้นประมาณตี 2 ครึ่ง ได้เข้าไปที่ผับบาร์แห่งหนึ่งในซอยบางลา ซึ่งขณะนั้นพบรุ่นพี่สมัยเรียนที่ภูเก็ต อยู่ในผับด้วยก็ได้เข้าไปทักทายและเต้นด้วยกัน

หลังจากนั้นพอผับปิดตนก็เดินออกมาด้านหน้าร้าน หลังจากนั้นสาวทอมที่ไปด้วยก็เดินมากระชากแขนและบอกว่าคืนนี้ไปนอนกับพี่นะ แต่ตนเองบอกว่าไม่ไป เพราะอยากกลับบ้าน อยากกลับไปเจอพ่อกับแม่ แต่สาวทอมพูดว่า รับปากจะไม่ทำอะไรตน ตนเองจึงเชื่อใจยอมไปด้วย จากนั้นสาวทอมได้พาไปที่ม่านรูดแห่งหนึ่งใกล้ทางเข้าเขื่อนบางวาด ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ 3 กม.ซึ่งขณะนั้นตนเองไม่ทราบว่าเป็นห้องอะไร สาวทอมให้เข้าไปในห้อง พร้อมยืนยันอีกครั้งว่าจะไม่ทำอะไร ตนเองจึงยอมเข้าไป ทันทีที่เข้าห้องสาวทอมได้ขืนใจ ตนขอให้หยุด แต่สาวทอมไม่หยุด ตนเองจึงผลักและรีบหยิบเสื้อผ้าก่อนวิ่งรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ แต่สาวทอมรีบมากันประตูไว้ ตนเองจึงต้องแกล้งพูดจาดีเพื่อขอใส่เสื้อผ้าก่อนจะมานั่งพูดจากกันดีๆ เมื่อใส่เสื้อผ้าได้ตนเองก็รีบเอาทรัพย์สิน ทั้งโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ ก็รีบวิ่งออกมาข้างนอกและรีบโทรให้พ่อมารับ ซึ่งระว่างนั้นสาวทอมได้พยายามขับรถตามมาเพื่อที่จะง้อให้ขึ้นรถแต่ตนเองไม่ยอมขึ้นรถไป

ทั้งนี้ นิสัยส่วนตัวของสาวทอมคนดังกล่าวก่อนหน้าที่ได้ร่วมงานนั้นเป็นคนนิสัยดี ขี้เล่น แต่ไม่ทราบว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะต้องการทำแบบนี้กับตนหรือไม่ ซึ่งวันนั้นสาวทอมและตนเองก็ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ตนเองนั้นไม่ได้ดื่มจนเมามากและยังมีสติ และต้องการกลับบ้านไม่ได้ต้องการไปนอนกับสาวทอม

Advertisement

อย่างไรก็ตามอยากจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเนื่องจากตนเองไม่ได้ยินยอมหรือเต็มใจ หลังเกิดเหตุสาวทอมได้พยายามโทรมาขอโทษ และบอกว่ารักและอยากดูแลตนเอง แต่ตนปฏิเสธ และขอให้เลิกยุ่ง ซึ่งตอนนี้ตนเองได้ออกจากงานแล้วเพราะไม่อยากไปเจออะไรแบบนี้อีก ตนเองคิดว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากความไว้ใจ จึงอยากฝากถึงสังคมว่า ไม่ควรไว้ใจคนอื่นมากไป

ด้านนาย บี(นามสมมติ ) ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นตนเอง และภรรยา รู้สึกสงสารลูก เพราะจิตใจย่ำแย่ เครียด ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร แต่ก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย วันเกิดเหตุตี 3 น้องเอโทรมาบอกว่าไม่เป็นไร อยู่กับเพื่อนที่ป่าตอง จึงสบายใจว่าอีกประเดี๋ยวลูกคงกลับ ต่อมาในเวลาประมาณ 09.00 น.ของวันที่ 13 เม.ย.62 น้องเอโทรมาบอกว่าให้ไปรับ ตนเองจึงรีบขับรถจยย.ไปรับ เห็นน้องเอครั้งแรก พบว่าน้องมีสภาพอิดโรย ไม่มีเรี่ยวแรง ขึ้นคร่อมจยย.แทบไม่ไหว ก่อนจะกอดเอวแน่น ตนเองคิดแล้วว่าต้องเกิดอะไรขึ้นบางอย่าง แต่ไม่ได้ถามก่อนรีบพากลับบ้านและคิดว่าให้ภรรยาเป็นคนคุย ก่อนจะทราบความจริง ซึ่งขณะนี้ ตนเองอยากดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถึงแม้ว่าคนทำจะเป็นสาวทอม แต่เมื่อรังแกลูกของตน ตนเองก็รับไม่ได้

ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 เม.ย.62 ทั้งสองได้เดินทางไปพบ ร.ต.อ.นิพนธ์ เต็มสังข์ รองสารวัตร(สอบสวน).สภ.กะทู้ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับสาวทอมรายดังกล่าวแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำก่อนทำการบันทึกถ้อยคำ ก่อนทำหนังสือส่งตัวเพื่อให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์อย่างเป็นทางการ ก่อนจะออกหมายเรียกคู่กรณีมาสอบปากคำ หากพบว่ากระทำผิดจริงก็จะแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

Advertisement

ด้านพ.ต.อ.จักรวรรดิ์ บุญทวีกุลสวัสดิ์ ผกก.สภ.กะทู้ กล่าวว่า คดีนี้ หลังจากที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ตนเองได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเรียกตัวสาวทอมมาสอบสวน รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง หากผลการสอบสวนเป็นอย่างไรก็จะดำเนินการไปตามรูปคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะทู้จะดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image