เมื่อวันที่ 20 เมษายน จากกรณี ด.ญ.ภัทรพร ชาวโพธิ์ หรือน้องกุ๊งกิ๊ง อายุ 2 ขวบ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน น.ส.วรัญญา แม่ของน้องให้การโดยเชื่อว่า น้องกุ๊งกิ๊งถูกนายสำรวม พูลสวัสดิ์ อายุ 55 ปี ตาแท้ๆ ทำร้ายด้วยการตีนั้น ขณะที่ผลการผ่าพิสูจน์ น้องกุ๊งกิ๊ง แพทย์ลงความเห็นว่า ได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะจากการกระแทกด้วยของแข็งไม่มีคม ซึ่งถือว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ หรือมีผู้อื่นทำให้ตาย ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.สรรคบุรี จะทำการสอบสวนพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีทางกฏหมายต่อนายสำรวม ตาของน้องกุ๊งกิ๊งต่อไป
ด้านนายสำเริง พูลสวัสดิ์ อายุ 56 ปี พี่ชายของนายสำรวมเปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนช็อก เพราะไม่คิดว่านายสำรวม ที่ปกติเป็นคยที่รักและเลี้ยงหลาน จะกระทำความรุนแรงกับน้องกุ๊งกิ๊ง หลานในไส้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ตนและพี่น้องก็ไม่ปกป้องคนผิด ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฏหมาย โดยน้องชายตนเคยก่อเหตุทำร้ายภรรยาจนได้รับบาดเจ็บมาแล้วเมื่อประมาณ 6 เดือนก่อน โดยครั้งนั้นอ้างว่าทำไปเพราะขาดสติ ซึ่งแพทย์เคยบอกว่าเป็นอาการของผู้ป่วยโรคอารมณ์สองขั้ว หรือไบโพลาร์ แต่นายสำรวมไม่เชื่อและไม่ยอมรักษา จนมาก่อเหตุสลดกับหลานสาวแท้ๆ ในครั้งนี้
ล่าสุด พ.ต.ท.ประวิง จิณาพันธ์ พนักงานสอบ สภ.สรรคบุรี เจ้าของคดีเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุและสอบสวนเบื้องต้นไว้แล้ว แต่คดีนี้มีความยากตรงที่ไม่มีประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ เพราะขณะเกิดเหตุมีเพียงนายสำรวมกับหลานอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน และต้องรอผลชันสูตรระบุสาเหตุการตาย จากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยนาท ผู้ส่งศพผ่าพิสูจน์ และการเข้าให้ปากคำของแม่น้องกุ๊งกิ๊งเสียก่อน จึงจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไปได้
