รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ทิศทางค่าเงินบาทวันที่ 22-26 เมษายน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.60-31.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ต้องติดตามตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนมีนาคม ปัจจัยการเมืองในประเทศ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น ตลอดจนความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมีนาคม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายน และข้อมูลอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ประจำไตรมาส 1/2562
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน ค่าเงินบาทปิดอยู่ที่ 31.82 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับระดับ 31.76 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 12 เมษายน โดยเงินบาทขยับอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังตลาดในประเทศกลับมาเปิดทำการจากช่วงวันหยุดยาว เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 31.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นการอ่อนค่าของเงินบาทสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ มีแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาด อาทิ ยอดขาดดุลการค้าที่ลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ยังคงปรับตัวลงตลอด 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา และยอดค้าปลีกในเดือนมีนาคมที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น
