ฉุดไม่ไหว!! ส่งออก มี.ค.ติดลบ 4.9% หวังราคาเกษตร-น้ำมันช่วยพยุงเป้า 6%

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนมีนาคม 2562 ติดลบ 4.88% เมื่อเทียบเดือนมีนาคมปีก่อน และมีมูลค่า 21,440 ล้านเหรียญสหรัฐ หากหักกลุ่มสินค้าน้ำมันและทองคำติดลบ 4.2% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 19,435 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 7.63% เป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ทำให้เดือนมีนาคมไทยได้ดุลการค้า 2,004 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เมื่อรวมการส่งออก 3 เดือนแรก มีมูลค่า 61,987 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 1.64% การนำเข้ามีมูลค่า 59,981 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 1.20% และได้ดุลการค้า 2,006 ล้านเหรียญสหรัฐ

นางสาวพิมพ์ชนกกล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกไทยยังติดลบ คือ เศรษฐกิจโลกชะลอตัว จึงกระทบกำลังซื้อทั่วโลกลดลง รวมถึงการส่งออกด้วย พบว่าการส่งออก 60 ประเทศ ใน 94 ประเทศทั่วโลกมีตัวเลขการส่งออกที่ติดลบ นอกจากนี้ ไทยยังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐกับจีน (เทรดวอร์) กระทบต่อกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีสัดส่วน 16-17% ติดลบสูง 20-30% ซึ่งยังเป็นประเด็นน่ากังวลในระยะยาว และเงินบาทแข็งค่าและยังผันผวน โดยเดือนมีนาคมการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร บวก 3.2% แต่ไตรมาสแรกลบ 0.2% การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมลบ 6% และไตรมาสแรกลบ 1.5% ขณะที่ตลาดส่งออกส่วนใหญ่ติดลบ

นางสาวพิมพ์ชนกกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังอยู่ระหว่างการทบทวนตัวเลขเป้าหมายส่งออก คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ ซึ่งการส่งออกไทยยังมีเรื่องน่าห่วงในปัจจัยเดิมๆ คือผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและการค้าโลกชะลอตัว ผลกระทบจากเทรดวอร์ รวมถึงเบร็กซิท และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) ของยุโรปอาจชะลอตัวลง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ภาคอุตสาหกรรมไทยต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพราะไทยเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่การผลิต เรื่องนี้อยากเสนอให้รัฐบาลใหม่ดูแลและออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน

“หากไทยยังคงรักษาฐานมูลค่าการส่งออกต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็จะทำให้ไตรมาส 2 กลับมาเป็นบวก และหากพยุงตัวเลขเฉลี่ยต่อเดือนจากนี้ที่ 21,000-22,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็จะทำให้การส่งออกไทยทั้งปี 2562 ขยายตัวช่วง 3-6% แต่คงไม่ถึง 8% แน่ เพราะต้องมีฐานมูลค่าส่งออกต่อเดือน 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนปัจจัยที่จะหนุนส่งออกไทยจากนี้ คือการเจรจาเทรดวอร์ได้ข้อสรุปเดือนมิถุนายน ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้นจะช่วยดึงกลุ่มสินค้าเกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น และราคาสินค้าเกษตรยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะหลายประเทศเจอภัยธรรมชาติทำให้ผลผลิตต่ำกว่าความต้องการ ภาคเกษตรปีนี้จะช่วยพยุงส่งออกได้ดีกว่าภาคอุตสาหกรรม” นางสาวพิมพ์ชนกกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image