สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ปาฐกถาเวทีนานาชาติ แนะใช้เทคโนโลยีสร้างสันติภาพในสังคมดิจิทัล

 

เมื่อเช้าวันที่23 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ. ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการการประชุมโบอ่าวเพื่อเอเชีย(Boao Forum for AsiaหรือBFA) ได้แสดงปาฐกถาในการจัดการประชุมระหว่างประเทศของBFA ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในหัวข้อ “การปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อการพัฒนาร่วมกันในยุคใหม่ของโลก”ในงานนี้ นางกลอเรีย อาโรโย ประธานสภาคองเกรส และอดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ นายโจว เสี่ยวฉวน อดีตผู้ว่าการธนาคารชาติของจีนและดร. เฮนรี่ เลี่ยวประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมจีน-ฟิลิปปินส์ร่วมแสดงปาฐกถาด้วย โดยมีนักวิชาการ นักธุรกิจจากจีนและฟิลิปปินส์เข้าร่วม

 

ศ. ดร. สุรเกียรติ์ กล่าวว่าในโลกที่การกีดกันการค้าและการดำเนินการฝ่ายเดียวจากบางประเทศมีเพิ่มขึ้น ผู้นำภาครัฐและเอกชนยิ่งต้องเร่งร่วมมือกันเพื่อให้มั่นใจว่าระบบเศรษฐกิจเปิด การหารือความร่วมมือแบบพหุภาคีอย่างเข้าใจและให้เกียรติกันจะดำเนินต่อไปเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ในการพัฒนาร่วมกันระหว่างประเทศนั้น สิ่งสำคัญคือทุกภาคส่วนโดยเฉพาะคนยากจนต้องมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น และในการพัฒนานั้นๆ การค้าเสรีต้องดูแลประเทศเล็ก และคนตัวเล็กทุกภาคส่วนด้วย ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จึงจะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเรามีอนาคตร่วมกัน และพร้อมทำงานร่วมกันเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น

Advertisement

“ต้องเน้นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ให้อาเซียน-จีนเป็นประชาคมที่มีความพร้อมสำหรับอนาคตของยุคเศรษฐกิจดิจิตัล(Future-Ready Community) อาเซียน-จีนต้องช่วยให้คนของภูมิภาคนี้ปรับตัวพร้อมสำหรับอนาคตของเทคโนโลยีให้ได้ เพราะแม้เทคโนโลยีจะมีช่วยให้เกิดไลฟ์สไตล์ใหม่ๆที่สะดวกสบายและธุรกิจใหม่ๆที่ก้าวหน้าแต่ถ้าบริหารจัดการไม่ดี เทคโนโลยีก็จะทำให้ช่องว่างระหว่างคนรวย คนจนถ่างกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว เราจึงต้องทำให้เทคโนโลยีเป็นตัวสร้างสันติภาพในสังคมดิจิทัล ไม่ใช่สร้างความถ่างของความมั่งคั่งในสังคมจนเกิดความแตกแยก”ศ.ดร.สุรเกียรติ์ กล่าว

ศ. สุรเกียรติ์เสนอว่า ความคิดริเริ่ม”หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ควรรวมทั้งการเชื่อมโยงทางกายภาพ และการเชื่อมโยงทางดิจิตัล ด้วย(Physical and Digital Connectivity)และให้ความคิดริเริ่มนี้เป็นสิ่งที่นำไปสู่การเปิดตลาดเสรีทั้งการเคลื่อนย้ายคน สินค้าและธุรกิจออนไลน์ต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจีนควรช่วยอาเซียนในการยกเครื่องกระบวนการศึกษาโดยเฉพาะอาชีวะศึกษาเพื่อฝึกอบรมประชาชนให้มีความพร้อมในสังคมยุคเทคโนโลยี

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมนี้มีผู้มาร่วมกว่า400คน และมีเวทีที่นักธุรกิจที่สำคัญมาพบกันในช่วงบ่ายของการประชุมอีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image