นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง กล่าวว่า บริษัทฯ คาดรายได้ในไตรมาส 2/62 จะเติบโตต่อเนื่อง จากการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่ม Boiler เพื่อเสริมประสิทธิภาพการใช้กำลังการผลิตไฟฟ้า พร้อมรับอานิสงส์ภาครัฐปรับขึ้นค่าเอฟที (ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ) ส่งผลดีให้ราคาขายไฟฟ้าต่อหน่วยของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้า และจ่ายไฟฟ้าตามแผนที่วางไว้ โดยสิ่งที่บริษัทฯ จะเร่งดำเนินการหลังจากนี้ คือผลักดันอัตราการใช้กำลังการผลิตไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีเป้าหมายที่จะต้องมีกำลังการผลิตไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 95% ภายในปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ยื่นประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะอ่อนนุช และโครงการโรงไฟฟ้าขยะหนองแขม โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในแต่ละโรงไม่ต่ำกว่า 20 เมกะวัตต์ ในวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา คาดว่าจะทราบผลการประมูลของโครงการดังกล่าวในไตรมาส 3 นี้ หรือภายใน 180 วันหลังจากวันยื่นการประมูลโครงการดังกล่าว โดยหากทราบผลการประมูลจะใช้เวลาก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวประมาณ 2 ปีครึ่ง
“เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ TPIPP ในปีนี้จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทฯ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ครบตามแผนงาน และได้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าโดยการติดตั้ง Boiler เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยนี้จะช่วยหนุนการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับ TPIPP ได้ ทั้งในแง่รายได้และอัตรากำไรที่คาดว่าจะดีขึ้น” นายภัคพล กล่าวและว่าถึงทิศทางของอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าขยะในประเทศไทย มีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐให้การสนับสนุนเป็นอันดับต้นๆ โดยร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย หรือ PDP ฉบับใหม่ มีนโยบายเพิ่มการสนับสนุนโรงไฟฟ้าขยะเป็น 900 เมกะวัตต์ จากเดิม 400 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ภาครัฐเริ่มมีทิศทางสนับสนุนการจัดตั้งโรงไฟฟ้าขยะที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
