เมื่อวันที่ 30 เมษายน นายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ เปิดเผยว่า หลังจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ประกาศส่งผู้สมัครในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นเพื่อทำงานคู่ขนานกับการเมืองระดับชาติภายหลังการเลือกตั้งจาก 6.2 ล้านคะแนนเสียงนั้น ขอให้หัวหน้าพรรค อนค.ศึกษาบริบทของการเมืองท้องถิ่นให้ชัดเจนทั้งปัญหาที่เกิดจากการกระจายอำนาจหลังการใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ต้องดูเนื้อแท้ว่าทำไมการกระจายอำนาจในประเทศไทยที่มีกฎหมายรองรับนาน 22 ปี จึงไม่มีความคืบหน้า ทั้งการจัดสรรงบประมาณ การกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกรูปแบบโดยโครงสร้างของกระทรวงมหาดไทย ทั้งระบบราชการบริหารส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ที่สำคัญที่สุดหากจะเข้าไปปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลักอย่างเป็นรูปธรรม พรรคอนาคตใหม่จะต้องเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และมีอำนาจในการมอบนโยบายด้านการกระจายอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทำงานให้มีผลในทางปฏิบัติ
นายอัษฎางค์กล่าวว่า เพื่อไม่ให้เสียของหากสนใจปรับปรุงโครงสร้างของท้องถิ่น ขณะนี้ผู้มีอำนาจในพรรคต้องหารือกับนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ด้านกระจายอำนาจที่แท้จริงในประเทศซึ่งยืนยันว่าขณะนี้มีไม่เกิน 5 คน เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดเสนอแนะวิธีการทำงานที่แตกต่างจากนักการเมืองท้องถิ่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กดีเชื่อฟังผู้มีอำนาจ และพรรคอนาคตใหม่ต้องทำให้มีความแตกต่างหากมุ่งหวังให้ประชาชนในท้องถิ่นมีอิสระ มีอำนาจตัดสินใจการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานตามความจำเป็น การจัดเก็บรายได้ให้เพียงพอเพื่อพึ่งพาตนเอง
“ส่วนตัวเชื่อว่าสนามการเมืองที่พรรคอนาคตใหม่ต้องการเปิดตัวคือการส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. เพียงแต่ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาแนวทางและหาบุคคลที่มีความเหมาะสม” นายอัษฎางค์กล่าว และว่า สำหรับผู้ที่สนใจทำงานการเมืองในระดับ อบจ. อบต.และเทศบาลยังมีอีกมาก แต่พรรคอนาคตใหม่ต้องค้นหาของดีให้เจอ ต้องศึกษาให้ดีว่าแต่ละจังหวัดมีใครเป็นขาใหญ่ผู้มีบารมีหรือเจ้าพ่อ เจ้าแม่อยู่ในค่ายของพรรคการเมืองระดับชาติพรรคใด และเชื่อว่าการเลือกตั้งในสนามท้องถิ่นพลังของชาวโซเชียลจะไม่ต่างจากการเลือกตั้งในสนามใหญ่ เนื่องจากประชาชนเริ่มตื่นตัวจากการหาข้อมูลผ่านสื่อดิจิทัลมากขึ้น
