ถอดรหัส‘ฟอร์ด เรนเจอร์’ ก้าวขึ้นท็อปทรีปิกอัพไทย!? : โดย นายพล

นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในวงการปิกอัพบ้านเราครั้งสำคัญ เมื่อค่ายฟอร์ดเปิดตัวปิกอัพ เรนเจอร์ ใหม่ เมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว หลังจากนั้นยอดขายเรนเจอร์ค่อยขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จนทำให้ยอดขายเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ก้าวขึ้นมาอยู่อันดับท็อปทรี รั้งตำแหน่งที่ 3 ของรถปิกอัพในบ้านเรา ด้วยยอดขาย 4,926 คัน กินส่วนแบ่งตลาดปิกอัพรวมไปได้ถึง 14.2% ขณะที่ยอดขายรวม 3 เดือนของปีนี้ เรนเจอร์ทำได้ 12,418 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.8%

ดูเหมือนว่าตัวเลขเรนเจอ์อาจจะไม่มากนัก เมื่อเทียบกับค่ายใหญ่อย่าง โตโยต้าและอีซูซุ แต่หากย้อนไปดูในอดีต นานมากแล้วที่ยังไม่มีค่ายรถใดสามารถกินส่วนแบ่งตลาดปิกอัพได้ถึงขนาดเลข 2 หลัก การก้าวขึ้นมาได้ขนาดนี้ของเรนเจอร์ ย่อมไม่ธรรมดา

สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นปัจจุบัน ได้รับฉายาว่ารถกระบะสายพันธุ์แกร่ง สมรรถนะการขับขี่โดดเด่น ทั้งบนทางเรียบและแบบออฟโรด วางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 20 รุ่น รวมถึงรุ่นไวลด์แทรค XLT XLS XL กระบะฐานล้อสั้น (Short Wheel Base) และรุ่นใหม่ ลิมิเต็ด (Limited) และยังรวมถึงฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง ผลิตจากโรงงานรุ่นแรกและรุ่นเดียวของเอเชีย แปซิฟิก

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกถึง 3 แบบ ได้แก่ เดีเซลใหม่ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ดีเซลใหม่ 2.0 ลิตร เทอร์โบ และดูราทอร์ค 2.2 ลิตร เทอร์โบ

Advertisement

เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ของฟอร์ดผลิตจากวัสดุและการออกแบบทางวิศวกรรมล้ำสมัย ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ทรงพลัง ด้วยระบบคอมมอนเรล หัวฉีดไดเร็กอินเจ็กชั่น ท่อร่วมไอดี และสายพานไทม์มิ่งแบบจุ่มในน้ำมันเครื่อง

สำหรับรุ่นแร็พเตอร์ และรุ่นไวลด์แทรค 4×4 เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แรงบิดสูงขึ้น เพื่อรองรับการขับขี่หลากหลาย ทำให้เสียงเครื่องยนต์เงียบลงกว่าเดิม

เครื่องยนต์ไบเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ใช้ระบบ ซีเควนเชียล เทอร์โบชาร์จจิ้ง (Sequentail Turbocharging) ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์ทั้ง 2 ตัว เพื่อให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวแรกเป็นแบบเทอร์โบแปรผัน (Vartiable Turbocharger) ช่วยเร่งการตอบสนองของคันเร่ง ลดช่วงการรอรอบ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดและแรงม้าสูงแม้ตอนใช้ความเร็วต่ำ

ขณะที่เทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวที่สอง เป็นระบบเทอร์โบ ฟิกซ์-จีโอเมทรี่ (Fixed-geometry) จะรับหน้าที่ต่อ เพื่อเพิ่มกำลังและความเรียบลื่นให้กับเครื่องยนต์ขณะใช้ความเร็วสูง

ด้วยแรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบต่อนาทีและอัตราทดเกียร์แคบลงของเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ช่วยเพิ่มพลังและแรงเร่ง ทำให้การไต่เขาที่ลื่นและสูงชันทำได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์และไวลด์แทรค มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ยังคงสมรรถนะในการบรรทุกและลากจูงได้สูงสุดถึง 3,500 กิโลกรัม

เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ในรุ่นไวลด์แทรค 4×2 และรุ่นใหม่ลิมิเต็ด (Limited) มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด กำลัง 180 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น ลิมิเต็ด (Limited) ยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือกอีกด้วย

ส่วนรุ่น XLT XLS และ XL มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบมอบกำลัง 160 แรงม้า และแรงบิด 385 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย มีทั้งระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ

ระบบนี้ออกแบบเพื่อตรวจจับคนเดินถนนและยานพาหนะด้านหน้า และจะช่วยเบรกจนหยุดนิ่งเมื่อระบบพบว่าคนขับไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนนลง ระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน (Lane Departure Warning) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)

ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Active Park Assist-APA) ช่วยให้การเทียบจอดรถข้างทางเป็นเรื่องง่าย โดยระบบกึ่งอัตโนมัติจะบังคับทิศทางของรถให้เข้าสู่ช่องจอด ผู้ขับขี่เพียงควบคุมคันเร่งหรือเบรกเท่านั้น

เรนเจอร์รุ่นไวลด์แทรค และ LTD มาพร้อมระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย (Easy Lift Tailgate) ครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ด้วยกลไกช่วยผ่อนแรงของผู้ใช้ลง 70 เปอร์เซ็นต์ ช่วยให้เปิดปิดฝากระบะท้ายง่ายดายและสะดวกขึ้น

ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าในรุ่น XL และ XLS ถือเป็นครั้งแรกของตลาดรถกระบะระดับเดียวกัน

รูปลักษณ์ของเรนเจอร์ใหม่ ถือว่าเป็นอีกจุดที่โดนใจใครหลายคน รุ่นล่าสุดนี้ ปรับเปลี่ยนเพื่อสื่อถึงความสมบุกสมบันแบบออฟโรดและความโฉบเฉี่ยวขึ้น รุ่นเรนเจอร์ ไวลด์แทรค และรุ่นลิมิเต็ด มาพร้อมไฟเดย์ไลท์ LED และไฟหน้า HID

นอกจากนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ แต่ละรุ่นยังมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันชัดเจน ด้วยสีและการตกแต่งที่สื่อถึงลักษณะที่โดดเด่นของแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่พร้อมรองรับทุกงานหนัก เช่น เรนเจอร์ XL XLS หรือรุ่นไวลด์แทรค ที่พร้อมลุยไปทุกที่

การตกแต่งเส้นสายด้วยโครเมียมในเรนเจอร์ XLT และ ลิมิเต็ด รวมไปถึงการตกแต่งแบบโดดเด่นในเรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่นนี้ยังมาพร้อมสีภายนอกใหม่เฉพาะรุ่น คือสี เซเบรอ สีส้มประกายบลอนด์ กระจังหน้าสีเทาเข้ม สปอร์ตบาร์และล้ออัลลอย 18 นิ้ว

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใช้กุญแจอัจฉริยะ (PEPS) และปุ่มสตาร์ตรถอัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น ลิมิเต็ด และรุ่นไวลด์แทรค

ห้องโดยสารของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ กว้างขวางตกแต่งในโทนสีดำพื้นผิววัสดุตรงจุดสัมผัสเน้นทนทาน เพิ่มความหรูด้วยการตกแต่งด้วยโครเมียมและเดินด้ายสีเงิน

มีระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (Active Noise Cancellation) ในรุ่นไวลด์แทรค ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออีกด้วย

ระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) รองรับ แอปเปิล คาร์เพลย์ และ แอนดรอยด์ ออโต พร้อมบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง สามารถใช้งาน แอปเปิล แมปส์ และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซติดตั้งมากับรถเมื่อออกนอกพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์

ระบบซิงค์ 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียงและระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทย รวมถึงระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) จะทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธภายในรถ เพื่อติดต่อไปยังหมายเลข 1669 ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัยทำงาน หรือระบบตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง

ระบบช่วงล่างพัฒนาดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ลดการโคลงตัวและการควบคุมการทรงตัวดีขึ้น

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 20 รุ่น ได้แก่ แร็พเตอร์ ราคา 1,699,000 บาท ไวลด์แทรคมีให้เลือก 2 รุ่น ราคาตั้งแต่ 1,029,000-1,265,000 บาท ลิมิเต็ด (LTD) มีให้เลือก 4 รุ่น ราคาตั้งแต่ 889,000-1,029,000 บาท XLT มีให้เลือก 4 รุ่น ราคาตั้งแต่ 749,000-869,000 บาท XLS มีให้เลือก 4 รุ่น ราคาตั้งแต่ 659,000-789,000 บาท XL มีให้เลือก 3 รุ่น ราคาตั้งแต่ 559,000-649,000 บาท กระบะฐานล้อสั้น (Short Wheel Base) มีให้เลือก 2 รุ่น ราคาตั้งแต่ 589,000-799,000 บาท

และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เรนเจอร์ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของตลาดปิกอัพเมืองไทยในขณะนี้

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image