เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ สมาคมฯได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ตั้งข้อสังเกตกองทัพบก (ทบ.) อนุมัติซื้อ “สไตรเกอร์” ทำไมแพงกว่าปกติ โดยมีรายงานว่า กองทัพบกได้อนุมัติจัดหารถเกราะล้อยาง M1126 STRYKER จากอัตราสำรองคลังของกองทัพสหรัฐอเมริกาจำนวน 37 คัน (แถม 23 คัน) มูลค่าประมาณคันละ 80 ล้านบาท โดยใช้งบทั้งสิ้นประมาณ 2,960 ล้านบาท เพื่อบรรจุในกองพลทหารราบที่ 11 จ.ฉะเชิงเทรา ตามแผนการเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยทหารราบ พร้อมนำเข้าประจำการในหน่วยทหารหน่วยอื่นอีกด้วยนั้น
ล่าสุด สมาคมฯได้ตรวจสอบราคาที่มีการโฆษณาซื้อขายกันผ่านเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งข้อมูลด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีการซื้อขายโดยทั่วไป พบว่าราคาของรถเกราะล้อยาง M1126 STRYKER ถูกกำหนดราคาไว้ที่ 1,411,000 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 47 ล้านบาทต่อคันเท่านั้น และรถเกราะล้อยางรุ่นดังกล่าวไม่ได้เป็นรถรุ่นใหม่แต่อย่างใด มีการผลิตและนำมาใช้ประจำการมาแล้วเกือบ 20 ปี และการที่กองทับพกไทยอนุมัติซื้อมานั้นเป็นรถที่อยู่ในคลังสำรองของกองทัพสหรัฐ หมายถึงเป็นรถมือสองใช่หรือไม่ แต่อาจจะนำไปพ่นสีให้ดูใหม่ขึ้น เปลี่ยนอะไหล่เล็กๆ น้อยๆ เพื่อทำให้ดูดีมีราคาขึ้นมาใช่หรือไม่ (Refurbishment)
แถลงการณ์ระบุอีกว่า จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า ทำไมราคารถดังกล่าวที่กองทัพบกอนุมัติซื้อหามา จึงมีราคาที่
แพงกว่าปกติทั่วไป และหากให้ราคาสูงขึ้นมาตามภาวะตลาดก็ไม่น่าจะแพงถึงขนาดนี้ คำถามคือ กองทัพบก
ไทยจัดซื้อ เกราะล้อยาง M1126 STRYKER มาในราคาประมาณ 80 ล้านบาทต่อคัน ในขณะที่ราคาขายรถมือ
ใหม่อยู่ที่ 47 ล้านบาทต่อคัน หากซื้อมา 37 คัน จะเกิดส่วนต่างประมาณ 1,220 ล้านบาท นั้นจริงหรือไม่ ใน
ฐานะประชาชนผู้เสียภาษีทั่วไปต้องการที่จะได้รับคำตอบหรือคำชี้แจงจากกองทัพบกในเรื่องดังกล่าว หาก
กองทัพบกยังยึดมั่นในคำว่า “มีธรรมาภิบาล” ที่แท้จริง และหากเรื่องดังกล่าวไม่มีคำตอบที่ชัดแจ้งสมาคมฯ
จะนำความไปร้องให้ สตง. และ ป.ป.ช. ตรวจสอบต่อไป
