นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า ในสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้หวังให้การลงทุนรัฐวิสาหกิจช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังมีปัญหา โดยรัฐวิสาหกิจมีงบลงทุนรวมกัน 3.3 แสนล้านบาทล่าสุดเบิกจ่ายไปแล้ว 8 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 92% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม โดยขอให้เร่งการลงทุนในช่วงเดือนในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ส่วนรัฐวิสาหกิจยังลงทุนต่ำกว่าแผนที่วางไว้ 4-5 แห่ง เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) องค์การเภสัชกรรม บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) ขอให้ไปช่วยดูว่าปัญหาการเบิกจ่ายเงินลงทุนล่าช้าคืออะไร รวมถึงต้องไปดูว่าจะเร่งรัดอย่างไร โดยเงินลงทุนรัฐวิสาหกิจมีสัดส่วน 10% ของจีดีพี ในขณะที่การส่งออกมีสัดส่วน 60-70% ของจีดีพี แม้ว่าจะชดเชยไม่ได้กับการส่งออกจะลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้า แต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า นายสมคิด มอบนโยบายให้ให้รัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนในไตรมาสที่ 2 และ 3 ปี 2562 ให้ได้เพิ่มขึ้นกว่าแผน โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่มีศักยภาพ เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวมที่จะถูกกระทบจากปัจจัยต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งให้รัฐวิสาหกิจพิจารณาปรับเพิ่มโครงการลงทุนในการพัฒนาธุรกิจ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
