ม.หอการค้าฯ เผยส่งออก9สินค้าไทยไปสหรัฐ-จีนอ่วม แนะขยายตลาดใหม่เพิ่ม

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลกระทบจากสงครามการค้าหลังจากที่สหรัฐจะจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 25% จากเดิม 10% มีผล 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา และจีนจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 5,140 รายการ เช่น เนื้อหมู แกะ ชา กาแฟ เครื่องดื่ม ผลไม้ ไวน์ เบียร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับ เป็นต้น มีผล 1 มิถุนายนนี้ ประเมินว่าจะมีผลกระทบต่อการส่งออกไทยในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 (มิถุนายน-ธันวาคม) ราวลดลง 1.8% มูลค่า 2,367 ล้านดอลลาร์สหรับ หรือ 75,270 ล้านบาท และคาดการณ์ส่งออกทั้งปี 2562 เติบโตราว 0.5-1.0%

นายอัทธ์ กล่าวว่า สินค้าไทยมีทั้งที่ได้รับผลกระทบให้ส่งออกลดลงและมีบางส่วนที่อาจได้รับผลดีส่งออกได้เพิ่ม ซึ่งคาดการณ์สำหรับตลาดจีน สินค้าไทยที่จะได้รับผลกระทบให้ส่งออกลดลง ได้แก่ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง รถยนต์และชิ้นส่วน ส่วนที่จะส่งออกได้เพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลไม้สดและแปรรูป เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และอาหารสัตว์ ส่วนตลาดสหรัฐ สินค้าไทยที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ทั้งนี้ สิ้นค้าที่จะส่งออกได้เพิ่มขึ้นคือ ผลไม้สดและแปรรูป ชิ้นส่วนรถยนต์ ยางและผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์

“ประเด็นที่ต้องติดตามต่อเนื่องคือ จีนจะมีมาตรการกีดกันการค้าผ่านมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีมากขึ้นหรือไม่ สินค้าจีนที่ได้รับผลกระทบจะเข้ามาเพิ่มขึ้นในตลาดอาเซียนมากน้อยเพียงใด แนวโน้มจีนจะมีการย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศซีแอลเอ็มวี รวมทั้งจะมีการใช้มาตรการค่าเงินหยวนอ่อนค่าเพื่อชดเชยส่วนที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าหรือไม่ ในส่วนของไทยควรเร่งจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็วที่สุด และเดินหน้าการเจรจาการค้าเสรีกับยุโรปให้เกิดขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเวียดนามได้บรรลุความตกลงกับยุโรปแล้ว มีการกระจายสินค้าและกิจกรรมการค้าไปยังกลุ่มประเทศบริคส์ ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ ทั้งบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกา ทั้งนี้ ควรทำการค้าแบบพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพสูงและต้นทุนต่ำ เพื่อให้สินค้าสามารถแข่งขันได้ ” นายอัทธ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image