ตร.โคราช พบพิรุธสาวจับตรวจพบ ‘ยาบ้า-ยาไอซ์’ คาด่าน สารภาพรับเดินยาจาก จ.นนทบุรี
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผกก.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา มอบหมายให้ พ.ต.ท.บุญส่ง ขอบโคกกรวด รอง ผกก.(ป.) สภ.พิมาย พ.ต.ท.รัตนพล ธูปแก้ว รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุนันท์ เจริญจิตร สวป. และ ร.ต.อ.อนุศิษฏ์ เคล้ากระโทก รอง สวป. ควบคุมการปฏิบัติตั้งจุดตรวจอาชญากรรมและยาเสพติดในช่วงระดมกวาดล้างถนนสายพิมาย-ชุมพวง หน้าโรงงานสหชัย หมู่ 18 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ปรากฏว่าได้มีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นอะเมช สีขาว ป้ายแดง ก 5791 อุบลราชธานี วิ่งผ่านมา ในรถนั่งมาด้วยกัน 3 คน รวมทั้งคนขับ จึงขอตรวจดูใบอนุญาตขับขี่คนขับ นายสามารถ หรือไอซ์ ท้าวจัตุรัส อายุ 32 ปี ชาว อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ท่าทางมีพิรุธลุกลี้ลุกลนคล้ายมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนมาจึงแสดงตัวทำการตรวจค้น และนำคนขับไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดแต่ไม่พบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตดูหญิงสาว ทราบชื่อ น.ส.รักษณาลี หรือมอมแมม บนพิมาย อายุ 22 ปี ชาว อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา ที่นั่งโดยสารมาอยู่ด้านหน้าข้างคนขับ นั่งทับกระเป๋าสะพาย สีน้ำตาล จึงตรวจค้นดูในกระเป๋าพบยาบ้า จำนวน 3,958 เม็ด และยาไอซ์ นำหนัก 207.09 กรัม พร้อมอาวุธปืนสแตนเลสยี่ห้อสมิธแอนเวสัน ขนาด.38 ลำกล้องยาว 3 นิ้ว 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 บรรจุอยู่ตัวปืน 5 นัดพร้อมยิง และบรรจุอยู่ในกระเป๋าบรรจุกระสุนปืนอีก 12 นัด รวมกระสุนปืน 17 นัด ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นอยู่นั้น นายสุริยา หรือหนึ่ง สิงอุดม อายุ 39 ปี ชาว อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา ที่นั่งอยู่เบาะหลัง ลงรถวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังวิ่งไล่จับมาได้ และนำตัวนายสุริยาพร้อมกับ น.ส.รักษณาลี ไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบเป็นสีม่วงทั้ง 2 คน จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.พิมาย เพื่อขยายผล
จากการสอบถาม นายสามารถ หรือไอซ์ คนขับรถ เล่าว่า ตนขับรถรับจ้างมาส่งนายสุริยา หรือหนึ่ง และ น.ส.รักษณาลี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน รับมาจากตัวเมืองนครราชสีมา ไปส่งที่ อ.เมืองยาง แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ และสอบถามนายสุริยา หรือหนึ่ง รับสารภาพว่าเป็นเจ้าของยาบ้าและยาไอซ์พร้อมกับอาวุธปืนและลูกกระสุน ไปรับยามาจาก จ.นนทบุรี จะมีคนนำมาส่งให้ตามจุดนัดหมาย ตนก็จะนำยาบ้าและยาไอซ์ไปส่งที่เขต อ.ชุมพวง อ.เมืองยาง และ อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ตามจุดนัดหมาย
โดยการโอนเงินเข้าธนาคารให้ตนและตนก็โอนส่งเข้าธนาคารเป็นทอดๆ จำหน่ายยาบ้า จำนวน 200 เม็ด เป็นเงิน 40,000 บาท ถ้าจำหน่ายหมดทั้ง 2 อย่างจะได้เงินกว่า 1 ล้านบาท จึงตั้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 คือเมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์ และยาบ้า ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะได้ทำการขยายผลต่อไป
