เนสกาแฟจับมือจังหวัดระนอง ยกชั้นกาแฟกระบุรีเทียบระดับโลก สู่เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น

นายธนธร พันพานิชย์กุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ ครีมเทียม และเนสที บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เนสกาแฟ ได้ร่วมมือกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจังหวัดระนอง ในการยกระดับเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมจากท้องถิ่นระนองสู่คอลเลคชั่นกาแฟระดับโลก ได้แก่ “เนสกาแฟ เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น” ซึ่งเป็นเนสกาแฟรุ่นลิมิเต็ด ด้วยกาแฟผงสำเร็จรูปผสมกาแฟคั่วบดละเอียดที่สร้างสรรค์ขึ้นจาก เมล็ดกาแฟ โรบัสต้า 100% จากศูนย์รับซื้อเมล็ดกาแฟกระบุรี จังหวัดระนอง ซึ่งเป็นผลผลิตจากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในจังหวัดระนองกว่า 500 ราย ที่ผ่านการอบรมและติดตามโดยนักวิชาการเกษตรของเนสกาแฟ เพื่อพัฒนาคุณภาพของเมล็ดกาแฟตั้งแต่การปลูก จนถึงการดูแลรักษาและเก็บเกี่ยว ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของกาแฟไทย ภายใต้แนวคิด ‘ปลูกด้วยใจ กาแฟไทยยั่งยืนกับเนสกาแฟ’ (Grown Respectfully) ที่มุ่งเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับชาวสวนกาแฟ และดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนผ่านการให้คำแนะนำในการปลูกกาแฟจากนักวิชาการเกษตรของ เนสกาแฟ รวมทั้งสนับสนุนนโยบายจังหวัดระนองในการผลักดันกาแฟสู่พืชเศรษฐกิจหลักของจังหวัดอย่างเต็มที่

“ปัจจุบันเราพบว่า คอกาแฟไทยให้ความสำคัญกับการเลือกดื่มกาแฟที่มีคุณภาพ และมีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวเพื่อเป็นสื่อกลางในการเชื่อมทุกความผูกพันให้กับผู้คนรอบตัว เราจึงได้ร่วมมือกับชาวสวนกาแฟชาวไทย เพื่อสร้างสรรค์ ‘เนสกาแฟ เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น’ ใหม่ รุ่นลิมิเต็ด ขึ้นซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เนสกาแฟประเทศไทยสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่จากแหล่งเพาะปลูกท้องถิ่นคุณภาพเพียงแหล่งเดียว และระบุชื่อแหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟบนแพคเกจจิ้งด้วยความภาคภูมิใจในคุณภาพของกาแฟไทยที่ไม่แพ้ชาติใด นับเป็นการเปิดประสบการณ์อีกขั้นของการดื่มด่ำกาแฟคุณภาพ ผ่านความร่วมมือในกระบวนการผลิตกาแฟสำเร็จรูปมาตรฐานระดับโลกของเนสกาแฟ รวมกับการปลูกและเก็บเกี่ยวกาแฟด้วยใจของชาวสวนกาแฟจังหวัดระนอง ที่คอกาแฟชาวไทยจะต้องติดใจในรสชาติเข้ม หอมกลมกล่อม สุดพิเศษอย่างแน่นอน”

นายธนธร กล่าวถึงความพิเศษของ “เนสกาแฟ เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น” ใหม่ รุ่นลิมิเต็ดนี้ว่า เป็นการผลิตกาแฟอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เริ่มจาก 1. กาแฟทุกเมล็ดของออริจิน ซีเล็คชั่น ถูกเก็บในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดของฤดูเก็บเกี่ยว คือระหว่างช่วงเดือนธันวาคม-เดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศมีความชื้นเหมาะสมที่สุด 2. พิถีพิถันคัดเลือกเฉพาะผลสุกแดงเต็มที่ด้วยมืออย่างตั้งใจ เพื่อให้ได้เฉพาะเมล็ดกาแฟโรบัสต้าคุณภาพดี 3. ผ่านการตากแห้งด้วยแสงแดดตามธรรมชาติอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปี 4. การคั่วอย่างพิถีพิถันด้วยเทคโนโลยีเอ็มอาร์ซี (Micronized Roasted Coffee – MRC) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของเนสกาแฟในการนำกาแฟคั่วบด หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “กาแฟสด” มาบดให้เป็นอณูละเอียดผสมผสานเพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติเข้ม หอมกลมกล่อม อย่างมีเอกลักษณ์ และ5. แพคเกจจิ้งดีไซน์ที่โดดเด่นซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเสน่ห์ของลวดลายผ้าปาเต๊ะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมทางภาคใต้ของไทย

Advertisement

“เพราะเอกลักษณ์อันโดดเด่นของกาแฟระนองทั้งด้านรสชาติและกลิ่นหอมที่ใครได้ดื่มต่างก็ติดใจ จึงทำให้กาแฟระนองนั้นเติบโตอย่างต่อเนื่องจนมียอดผลผลิตสูงถึงเกือบ 600 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้จังหวัดระนองจึงต้องการยกระดับกาแฟท้องถิ่นระนองให้คนไทยได้ดื่มด่ำกาแฟคุณภาพเยี่ยม ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ผลิตกาแฟให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการส่งเสริมการผลิตเมล็ดพันธุ์กาแฟที่รสชาติถูกปากถูกใจคนไทย เนสกาแฟจึงเข้าร่วมในด้านการให้ความรู้ และเทคโนโลยีเพื่อให้กาแฟท้องถิ่นจากระนองได้มาตรฐานระดับสากล “เนสกาแฟ เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น” ใหม่ รุ่นลิมิเต็ด ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ชาวสวนกาแฟ อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง อยากให้คนไทยได้ลอง แล้วจะรู้ว่ากาแฟไทยนั้นหอมและอร่อย ไม่แพ้กาแฟจากเมืองนอกเลยทีเดียว”

นายพรเทพ ผ่องศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจแทนเกษตรกรจังหวัดระนอง ที่ได้รับเกียรติใช้ชื่ออำเภอ “กระบุรี” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกกาแฟของระนอง ไปปรากฏอยู่บนผลิตภัณฑ์ชั้นนำของบริษัทระดับโลกในครั้งนี้ และมั่นใจว่าเมล็ดกาแฟจากกระบุรี ระนอง จะทำให้ผู้บริโภคทั้งไทยและต่างประเทศได้ดื่มด่ำและติดใจในรสชาติสุดพิเศษจากกาแฟของประเทศไทย

นางอนงค์ งามบ้านผือ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจากตำบลลำเลียง อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เกษตรกรส่วนใหญ่ประสบปัญหากับต้นกาแฟที่แก่เกินไป ไม่สามารถออกผลผลิตที่มีคุณภาพ เช่น ออกลูกไม่ทน ไม่ติดลูกจนถึงสุก ให้ผลผลิตจำนวนน้อย เมล็ดกาแฟมีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากันในต้นเดียวกัน ฯลฯ แต่หลังจากเนสกาแฟส่งทีมงานมาช่วยให้คำแนะนำด้านการปลูกต้นกาแฟและพัฒนาพันธุ์กาแฟอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการประกันราคากาแฟ ส่งผลให้การปลูกกาแฟมีรายได้ดีขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image