นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) กล่าวในงานสัมมนา GAME CHANGER เกมใหม่ เปลี่ยนอนาคต Part 2 ในหัวข้อ EEC GAME CHANGER เศรษฐกิจการค้าการลงทุนไทย จัดโดย หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจต้องเผชิญกับภาวะความเสี่ยง การเปลี่ยนแปลงของประเทศเพื่อให้กับดักรายได้ปานกลาง ไทยจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีเจ้ามาพัฒนาประเทศ มุ่งสู่ 4.0 จึงเกิดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) และอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อให้เป็นตัวขับเคลื่อนและสร้างรายได้ให้ประเทศ
“อีอีซีเป็นเกมเชนเจอร์ของไทย ถ้าเราสามารถทำได้ถูกต้องจะทำให้อีอีซีเป็นแหล่งสะสมการลงทุนและพัฒนานวัตมกรรม คนไทยได้ประโยชน์ และจะเป็นต้นแบบพื้นที่อื่นๆ ของประเทศนำไปพัฒนาโมเดลเดียวกันได้ เช่น ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัฒนาจังหวัดรอบ ๆ แต่จะทำหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาสานต่อ ทั้งนี้ ภาพต่อไปพื้นที่อีอีวีจะเชื่อมโยงเป็นพื้นที่เดียวกับกรุงเทพฯ เหมือน นิวยอร์ก-นิวเจอร์ซีย์ โตเกียว-โยโกฮาม่า โซล -อินชอน ทำให้กรุงเทพฯ น่าอยู่ และมีพื้นที่ให้ธุรกิจใหม่เติบโต จะเป็นการผลักดันไทยขึ้นมาอยู่ฟรอนเทียร์ในภูมิภาค”นายคณิศกล่าว
โดยแผน 5 ปี อีอีซีจะสะสมการลงทุนให้ไทยเองมีการลงทุนในสัดส่วนถึง 10% จากเดิมอยู่ที่เพียง 5% ซึ่งเเนวคิดพื้นฐาน 2 ข้อของอีอีซี คือความร่วมมือ ทุกคนทำงานร่วมกัน ไม่เเบ่งรัฐ เอกชน เเละทำในสิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่ต่างประเทศต้องการให้เราทำ เช่นกรณีมาเลเซีย เขาจัดทำรถไฟ รัฐบาลจัดซื้อโบกี้ ซื้อรางให้เอกชน
สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน 5 โครงการ มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 650,000 รัฐลงทุนประมาณ 200,000 ล้านบาท รัฐได้รับผลตอบเเทน 450,000 ล้านบาท ตอนนี้มีกว่า 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ปีที่เเล้วมีคนมาขอลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กว่า 6.7 เเสนล้านบาท อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงจะเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 28 พฤษภาคม เเละจะเซ็นสัญญาในกลางเดือนมิถุนายน เช่นเดียวกับโครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 ที่จะเข้าครม. 28 พฤษภาคมนี้เช่นกัน คาดว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งหมดจะจบกระบวนการภายในมิถุนายนนี้
ทั้งนี้อีก 5 ปี ข้างหน้า งานใหม่ในอีอีซี จะเพิ่มขึ้นกว่า 475,674 อัตรา โดยมีอาชีวะศึกษา 253,114 อัตรา ปริญญาตรี 213,943 อัตรา ปริญญาโทเเละปริญญาเอก 8,617 อัตรา โดย 3 อันดับที่ต้องการ คือ ดิจิทัล โลจิสติกส์ เเละอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ
