‘สศก.’ เผยสินค้าเกษตรไทยได้ดุลการค้าในอาเซียน Q1 กว่า 53,244 ล้าน

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรไทยกับอาเซียน ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2562 หรือระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม พบว่าไทยยังคงเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าในอาเซียน คิดเป็นมูลค่า 53,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.02% จากช่วงเดียวกันในปี 2561 โดยสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ น้ำตาล อาหารปรุงแต่งจากเนื้อปลา เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ข้าวเจ้าและข้าวหอมมะลิ ผลไม้ และยางพาราธรรมชาติ สำหรับสินค้าที่ไทยนำเข้า ได้แก่ ปลาและสัตว์น้ำ มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ อาหารปรุงแต่ง วัตถุปรุงแต่งอาหาร ของปรุงแต่งจากผักและผลไม้ เป็นต้น

ทั้งนี้ สศก. ยังได้ติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างไทยกับตลาดหลักที่เป็นคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และจีน โดย พบว่า ไตรมาส 1/ 2562 ไทยได้เปรียบดุลการค้า ได้แก่ จีน จำนวน 31,861 ล้านบาท สหรัฐฯ จำนวน 11,564 ล้านบาท ญี่ปุ่น จำนวน 35,200 ล้านบาท และสหภาพยุโรป จำนวน 18,215 ล้านบาท ซึ่งช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 สถานการณ์การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยมีทิศทางดีขึ้น มีการขยายตัวของการส่งออกในตลาดอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป ซึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลดลง แต่การส่งออกไปยังตลาดจีนนั้น ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ซึ่งอาจเป็นผลกระทบจากนโยบายตอบโต้สงครามการค้าของจีน ที่มีการพึ่งพาตนเอง บริโภคสินค้าภายในประเทศ และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยควรขยายตลาดสินค้าเกษตรสำคัญๆ เช่น กลุ่มผลไม้ ไปยังตลาดอื่นๆ ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อทดแทนการพึ่งพาตลาดจีน และลดการแข่งขันกับประเทศเวียดนามที่เป็นคู่แข่งของไทยในกลุ่มสินค้าผลไม้ โดยมีข้อได้เปรียบไทยในเรื่องการมีพรมแดนติดกับจีน จึงทำให้มีต้นทุนค่าขนส่งที่ต่ำกว่า และมีระยะเวลาการขนส่งน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการค้าสินค้าเกษตร และยางพาราธรรมชาติ ในช่วงมกราคม – มีนาคม 2562 จากไทยไปยังอาเซียน พบว่า มูลค่าการค้ารวม 107,160 ล้านบาท ลดลง 4.56% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 โดยมี มูลค่าการส่งออก 80,202 ล้านบาท ลดลง 3.08% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 และมูลค่าการนำเข้า 26,958 ล้านบาท ลดลง 8.69% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561

นายฉันทานนท์ กล่าวว่า สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและยางพาราธรรมชาติของไทยไปยังอาเซียนเป็นรายประเทศ พบว่า ไทยส่งออกไปยังเวียดนามมีมูลค่าเป็นอันดับหนึ่ง หรือประมาณ 22% รองลงมา ได้แก่มาเลเซีย 17% อินโดนีเซีย 16% กัมพูชา 12% ตามลำดับ และหากพิจารณาดุลการค้า พบว่า ไทยได้เปรียบดุลการค้าของสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เวียดนามเป็นอันดับหนึ่ง โดยคิดเป็นมูลค่าที่ได้เปรียบดุลการค้าเท่ากับ 13,154 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย 10,146 ล้านบาท อินโดนีเซีย 7,698 ล้านบาท กัมพูชา 5,892 ล้านบาท และฟิลิปปินส์ 5,569 ล้านบาท ตามลำดับ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image