นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวภายหลังหารือนางอีวา แฮเกอร์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐออสเตรียประจำประเทศไทย และนายฟรานซ์ เวซซิค เจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงกิจการดิจิทัลและเศรษฐกิจของออสเตรีย ว่า ได้หารือเกี่ยวกับการกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า ในโอกาสที่ไทยกับออสเตรียได้ลงนามสนธิสัญญาไมตรี การค้าและการเดินเรือ ซึ่งครบรอบ 150 ปีในปีนี้ โดยสองฝ่ายเห็นพ้องว่าควรเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีความเชี่ยวชาญและมีความสนใจร่วมกัน โดยในเบื้องต้นอาจจัดให้มีคณะกรรมการความร่วมมือทางการค้า เพื่อเป็นกลไกหารือความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย
นางอรมนกล่าวว่า ไทยได้เชิญชวนออสเตรียเข้ามาลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะในสาขาที่ออสเตรียเชี่ยวชาญ เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ อัญมณีและเครื่องประดับ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ดิจิทัล การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม และการศึกษาฝึกอบรมบุคลากรสายอาชีวะป้อนอุตสาหกรรม 4.0 เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายในเขต EEC โดยออสเตรียแสดงความสนใจ เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ออสเตรียมีศักยภาพ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องกันว่าไทยและออสเตรียเป็นประตูการค้าที่สำคัญในแต่ละภูมิภาค โดยออสเตรียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใจกลางยุโรปตะวันออก ขณะที่ไทยตั้งอยู่ใจกลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งสองประเทศ จึงสามารถเป็นฐานในการกระจายสินค้าที่มีศักยภาพระหว่างกันและกันได้
นางอรมนกล่าวว่า ในปี 2561การค้าระหว่างไทยกับออสเตรีย มีมูลค่า 659 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9.72% จากปี 2560 โดยไทยส่งออกไปออสเตรีย 261 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากออสเตรีย 398 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องสำอาง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากออสเตรีย เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เพชรพลอยและอัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ กระดาษ และผลิตภัณฑ์กระดาษ ผลิตภัณฑ์โลหะ ผลิตภัณฑ์ทำจากพลาสติก และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เป็นต้น
