สทนช. ร่วมถกจีน-ลาว บริหารจัดการน้ำลุ่มแม่น้ำโขง

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำโขงในจีนและลาว เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์น้ำในภาคอีสานของประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน หากใน 2 ประเทศดังกล่าวมีฝนตกหนัก ไปจนถึงจำเป็นต้องปล่อยระบายน้ำจากเขื่อนในแม่น้ำโขง ประกอบกับการละลายของหิมะลงสู่แม่น้ำของประเทศจีน ส่งผลให้ลำน้ำโขงในบริเวณของประเทศไทยเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งได้ โดยที่ผ่านมาบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งมีพื้นที่ติดกับริมแม่น้ำโขง เคยได้รับผลกระทบดังกล่าวจนเกิดภาวะปัญหาน้ำท่วมหนัก

“แม่น้ำโขงถือเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศที่มีความสำคัญต่อประเทศไทยอย่างมาก รวมถึงปริมาณของน้ำในลุ่มแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านมาจากประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศต้นน้ำและลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน แม้ว่าแม่น้ำโขงไม่ได้ไหลผ่านประเทศไทยโดยตรง แต่ก็ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสถานการณ์น้ำของไทย ที่ผ่านมาได้มีการแลกเปลี่ยนหารือเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และขณะนี้ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ช่วงของฤดูฝนที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้น สทนช. ซึ่งกำลังดำเนินการเตรียมพร้อมรับมือการสถานการณ์น้ำหลากปี 2562 อย่างรอบด้าน จึงจำเป็นต้องเร่งขับเคลื่อนงานเชิงรุกเพื่อเตรียมการรองรับการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ในลุ่มแม่น้ำโขง” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวว่า เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำระหว่างประเทศในฤดูฝนปีนี้เกิดประสิทธิภาพและลดช่องว่างในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน วันที่ 4 – 5 มิถุนายนนี้ สทนช. จะเข้าร่วมประชุมหารือการแลกเปลี่ยนข้อมูลอุทกวิทยาในฤดูน้ำมากภายใต้กรอบความร่วมมือแม่น้ำโขง-ล้านช้าง ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน และวันที่ 9 – 10 มิถุนายน จะเข้าร่วมในการประชุมปรึกษาหารือและติดตามการบริหารจัดการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี และหารือประเด็นการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนไซยะบุรี รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านอุทกวิทยาและการบริหารจัดการเขื่อนช่วงฤดูฝน ณ หลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

“ สทนช.คาดหวังว่าการประชุมทั้งสองครั้งดังกล่าวจะทำให้การบริหารจัดการอุทกภัยของลุ่มน้ำในประเทศและลุ่มน้ำระหว่างประเทศ มีข้อมูลที่เพียงพอ สามารถนำมาใช้งานร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ ทั้งเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงมากขึ้นด้วย” นายสมเกียรติ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image