ฮอนด้า ซีวิค 1.8 ซีดานยุคใหม่ : โดย นายพล

ใครที่ชอบรถเก๋งขนาดกลาง เชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อยจะต้องปันใจไปให้ ฮอนด้า ซีวิค เพราะด้วยจุดแข็งของฮอนด้า เขาถนัดเรื่องดีไซน์ให้ตำแหน่งเก็บสัมภาระเล็กๆ น้อยๆ โดดเด่น

โดยเฉพาะรุ่นล่าสุด เบาะที่นั่งตกแต่งด้วยด้ายสีแดง มาพร้อมวัสดุตกแต่งคอนโซลแบบเปียโน แบล๊ก พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่จุได้ 525 ลิตร

แผงคอนโซลกลางได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด เทค เซ็นเตอร์ (Tech Center) เปรียบเสมือนศูนย์กลางเทคโนโลยี ด้านบนแยกออกเป็น 2 ชั้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับช่องเชื่อมต่อ นำเสนอฟังก์ชั่นสำหรับความสะดวกสบาย อาทิ หน้าจอแสดงผลการเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย (Hands-free Telephone) สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง สวิตช์รับและวางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย พร้อมสวิตช์สั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri ช่องเชื่อมต่อ USB พร้อมช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องจ่ายไฟสำรอง อีกทั้งที่วางแก้วน้ำและช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลางจัดเป็นสัดส่วนตลอดพื้นที่

สำหรับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ถือว่าไม่น้อยหน้าคู่แข่ง เพราะให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 174 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที รองรับ E85

Advertisement

สำหรับระบบส่งกำลัง ระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT (Continuously Variable Transmission) ให้ความรู้สึกได้ถึงความนุ่มนวล ขณะเดียวกันให้อัตราเร่งที่ดี การขับเคลื่อนด้วยความเร็วคงที่ในช่วงรอบต่ำ การที่ชุดเกียร์มีระยะอัตราทดกว้าง จึงช่วยลดรอบเครื่องยนต์เมื่อใช้ความเร็วสูง

ระบบช่วงล่างเป็นแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ รวมถึงระบบช่วงล่างหลังแบบมัลติลิงก์ ออกแบบมีจุดยึดบนซับเฟรมหลังแข็งแรงขึ้น ให้การทรงตัวดีกว่าในอดีตมาก

Advertisement

ระบบช่วงล่างหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท ระบบช่วงล่างหลังแบบมัลติลิงก์ พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า

ฮอนด้า ซีวิค 1.8 ลิตร มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบแอดวานซ์ ทัช (Advanced Touch) รองรับการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ ระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI ควบคุมฟังก์ชั่นความบันเทิง พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) และช่องเชื่อมต่อ USB มาพร้อมกับลำโพง 2 ตัว บริเวณประตูด้านหน้า อีก 2 ตัวที่แผงลำโพงทางด้านหลัง พร้อมกับทวิตเตอร์ จำนวน 4 ตัว

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิ แยกอิสระซ้าย/ขวา กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง สวิตช์รับและวางสายโทรศัพท์ พร้อมสวิตช์สั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri มาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ดีไซน์สปอร์ต

ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมต (Remote Engine Start) สั่งการได้จากระยะไกลเพื่อช่วยอุ่นเครื่อง พร้อมปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นสบายล่วงหน้า โดยรถจะต้องอยู่ที่เกียร์ P เท่านั้น เครื่องยนต์จึงสตาร์ตติด โดยที่ประตูรถจะยังคงล็อกอยู่ และเมื่อกุญแจรีโมตพร้อมผู้ขับขี่อยู่ภายในตัวรถ เหยียบเบรกค้างไว้ พร้อมกดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ เพื่อสตาร์ตรถ รถจึงจะเคลื่อนตัวได้

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง

มีเทคโนโลยีความปลอดภัย เช่น ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ช่วยลดจุดบอดกระจกมองข้างซ้าย โดยใช้กล้องจับภาพและแสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 7 นิ้ว เพื่อการมองเห็นไร้มุมอับ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)

ระบบเบรก โฮลด์ (Brake Hold) อัตโนมัติ (Auto Brake Hold) เมื่อกดปุ่มเปิดให้ระบบทำงาน ระบบจะหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติ หลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัว โดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และระบบจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบคันเร่ง และระบบจะคลายเบรกในกรณีผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่เท่านั้น

กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน

โครงสร้างตัวถังนิรภัย (G-Force Control: G-CON) ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ i-Side Airbag และม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง ปรับระดับสูง-ต่ำได้ และเข็มขัดนิรภัยด้านหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) โดยระบบป้องกันล้อล็อกจะช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกในระหว่างที่มีการเบรกกะทันหัน เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถและหักพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้า

ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)

มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) และสีขาวแพลทินัม (มุก)

ฮอนด้า ซีวิค 1.8 มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น รุ่น 1.8 EL ราคา 964,000 บาท และ รุ่น 1.8 E ราคา 874,000 บาท

ถือว่ามาแบบครบเครื่องในฐานะรถยนต์ซีดาน 4 ประตู ในยุคสมัยนี้ และถือว่าเป็นรถเก๋งยอดนิยมที่น่าใช้อีกรุ่น

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image