“ศิริ”วอนรมว.พลังงานคนใหม่ดูแลขรก. ชี้ปัจจุบันทีมเวิร์คแล้ว เปิดทางแกพีดีพี2018แต่ต้องเสนอตามขั้นตอน ปลื้มเคลียร์ปมพลังงาน-กดต้นทุนไฟฟ้าถูกลงช่วยปชช.
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่หลังการจัดตั้งรัฐบาล ว่า อยากฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ดูแลเหล่าข้าราชการทุกกรมในสังกัดกระทรวงพลังงาน รวมถึงทีมบริหารและพนักงานหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ(กฟผ.) และบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เนื่องจากที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้วางตัวทีมบริหารในแต่ละสายงานไว้เป็นอย่างดีแล้วตั้งแต่ระดับอธิบดีในแต่ละกรมลงไปสู่ระดับล่าง ทำให้การทำงานเป็นทีมเวิร์ค และพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อแผนงานที่วางไว้
และเรื่องสอง คือ อยากเห็นการปรับแผนการดำเนินงานในระยะสั้นถึงระยะยาวให้สอดรับกับ 5 แผนพลังงานที่ได้วางไว้ โดยเฉพาะในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศปี 2561-2580 (พีดีพี 2018) ที่จัดทำเสร็จเรียบร้อยบแล้ว ขณะที่อีก 4 แผนจะต้องทบทวนให้สอดรับกับแผนพีดีพีและสนับสนุนต่อแผนงานที่วางไว้ในบรรลุเป้าหมาย ทั้ง แผนอนุรักษ์พลังงาน(อีอีพี),แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก(เออีดีพี) แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ(แก๊สแพลน) และแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง(ออยล์แพลน)
“หากรัฐมนตรีฯท่านใหม่จะปรับแก้แผนพีดีพี สามารถทำได้ ไม่ห่วง เพราะมีขั้นตอนกำกับดูแลชัดเจน ต้องเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)และคณะรัฐมนตร(ครม.)ต่อไป เพราะการผลักดันแผนพีดีพี 2018 กระทรวงพลังงานก็ดำเนินการตามขั้นตอนเช่นกัน”นายศิริกล่าว
นายศิริกล่าวว่า สำหรับเรื่องสาม คือ การสานต่อโครงการโซลาร์ภาคประชาชน ที่เปิดโอกาสให้ขายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าระบบได้ในราคา 1.68 บาทต่อหน่วย ซึ่งในอนาคตจะรับซื้อถึง 10,000 เมกกะวัตต์ตามแผนพีดีพี เพราะจะเป็นผลดีต่ออัตราค่าไฟฟ้าโดยส่วนของประเทศไม่แพงขึ้นในอนาตคต
นายศิริ กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ผ่านมานั้น เรื่องที่ตนรู้สึกภูมิใจ คือ 1.การผลักดันเปิดประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแหล่งเอราวัณ-บงกช จนได้ผู้ชนะประมูลสำเร็จและได้ต้นทุนราคาก๊าซฯที่ต่ำลงมาก อยู่ที่ประมาณ 116 บาทต่อล้านบีทียู 2.การยุติความขัดแย้งกระแสต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ วางระบบในการหาคำตอบว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นดีหรือไม่ดี โดยการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์(เอสอีเอ) และจะต้องชี้ชัดว่า ภาคใต้ควรมีโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่ โดยขณะนี้ก็อยู่ในกระบวนการศึกษาข้อมูลต่างๆ และ3.การจัดทำแผนพีดีพี 2018 จนสำเร็จในระยะเวลาสั้น วางโครงสร้างผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนถึง 35% ของกำลังผลิตไฟฟ้ารวม และที่สำคัญทำให้โครงสร้างราคาไฟฟ้าตลอดแผนลดลงอยู่ที่ 3.58 บาทต่อหน่วย จากเดิม 5.5 บาทต่อหน่วยในปี 2579
