นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยในงานเทศกาล “โตโยสึ เจแปน เฟสติวัล 2019 ที่รอยัลพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน จัดโดยบริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด ว่า บริษัทมีแผนขยายเส้นทางบินใหม่รองรับการให้บริการผู้โดยสาร รวมทั้งมีการบริหารจัดการเส้นทางบินฝูงบินให้มีประสิทธิภาพ โดยเส้นทางบินญี่ปุ่นเป็นตลาดที่มีศักยภาพมีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ผู้โดยสารให้การตอบรับดีเพราะเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวที่คนไทยนิยมและรัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ประกาศยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวไทย มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นราว 1 ล้านคนต่อปี เติบโตปีละ 5% ซึ่งการบินไทยมีส่วนแบ่งการตลาดเส้นทางญี่ปุ่นอยู่ที่ราว 43%
นายสุเมธ กล่าวว่า ปัจจุบันการบินไทยให้บริการอยู่ 5 จุดหมาย ได้แก่ โตเกียว (นาริตะ/ฮาเนดะ) โอซากา นาโกยา ฟุกุโอกะ และซัปโปโร โดย ซึ่งล่าสุด การบินไทยจะเปิดให้บริการจุดหมายที่ 6 เส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-เซนได เพื่อส่งเสริมการท่องวเที่ยว ยังเป็นการเชื่อมโยงเสรษฐกิจทั้งสองประเทศ ยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้น รวมทั้งเป็นการสนุบสนุนนโยบายรัฐบาลด้านการค้าและการลงทุนจะเริ่มทำการบินตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ที่นั่งชั่นธุรกิจ 30 ที่นั่ง ที่นั่งชั้นประหยัด 30 ที่นั่ง ทำการบินไปกลับ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เที่ยวบินที่ ทีจี 626 ทำการบินทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์ ออกจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เวลา 23.50 ถึงเซนไดเวลา 07.30 น. และเที่ยวบินที่ ทีจี 627 ทำการบินทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์ เดินทางออกจากเซนได 11.15 น. ถึงกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) 16.05 น. คาดว่าสัดส่วนผู้โดยสารจะเป็นชาวไทย 60% และญี่ปุ่นและต่างชาติ 40%
นายสุเมธ กล่าวว่า การบินไทยได้จำหน่ายบัตรโดยสารราคาพิเศษเส้นทางกรุงเทพฯ-เซนได ในราคาเริ่มต้นสุดพิเศษเพียง 13,420 บาทต่อท่าน หรือเดินทางเป็นกลุ่มตั้งแต่4 ท่านขึ้นไป ราคาเพียง 12,820 บาทต่อท่าน (ราคารวมภาษีและค่าธรรมเนียมแล้ว) สำรองที่นั่งและออกบัตรโดยสารได้ตั้งแต่บัดนี้-31 สิงหาคม 2562 เดินทางระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม-20 ธันวาคม 2562
“การบินไทยเคยเปิดเส้นทางบินตรงสู่เซนได เมื่อปี 2557 แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนักเพราะสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศจึงได้ยกเลิกไป และตัดสินใจกลับมาทำการบินอีกครั้ง โดยร่วมทำการตลาดกับบริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด คาดว่าจะได้รับการตอบรับดีและมีส่วนช่วยหนุนรายได้เส้นทางญี่ปุ่น โดยเซนไดเป็นเมืองศูนย์กลางของภูมิภาคโทโฮคุ อยู่ห่างจากโตเกียวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 300 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู มีบทบาทสำคัญยาวนานในประวัติศาสตร์ มีธรรมชาติอันสวยงามได้สมญาว่าเป็นเมืองแห่งต้นไม้ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีคลัสเตอร์อุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้ ยังมีวัดและศาลเจ้าที่มีประวัติอันยาวนาน เช่น ซุยโฮเด็น และวัดโอซากิ ฮะจิมัง และศาลเจ้ามากมาย รวมทั้งเป็นต้นกำเนิดของลิ้นวัวย่างรสเลิศ ซึ่งปัจจุบันเมนูนี้กลายเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองเซนได จึงถือว่าเซนไดจะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวไม่ต่างจากเมืองอื่นๆ” นายสุเมธ กล่าว
นายคิโยโยชิ โอบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า บริษัทโตโยต้า ทูโช คอร์ปอร์เรชั่นซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้รุกธุรกิจใหม่ในการบริหารจัดการสนามบินเซนได ในประเทศญี่ปุ่น ร่วมลงทุนกับ 2 กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ ได้แก่ โตคิว กรุ๊ป และ มาเอดะ คอนสตรัคชั่น โดยหนึ่งในภารกิจหลักของโตโยต้า ทูโช คอร์ปอร์เรชั่นกับการต่อยอดนโยบายการเพิ่มธุรกิจในกลุ่มที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจยานยนต์ ให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ราวๆ 10% คาดว่าจะเพิ่มเป็น 20-30% ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยโตโยต้า ทูโช คอร์ปอร์เรชั่น ได้เข้าบริหารงานสนามบินเซนได ระยะเวลาสัญญาถึง 30 ปี โดยใช้งบลงทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2561 มีรายได้ประมาณ 57 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าในปี 2562 จะมีรายได้ 63 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเซนไดเป็นหนึ่งในจุดหมายที่มีนักเดินทางจากทั่วโลกมามากถึง 3.5 ล้านคนต่อปี หรือเฉลี่ยจำนวน 9,500 คนต่อวัน จากการจัดทำประชาสัมพันธ์ร่วมกันของสายการบินไทยกับจังหวัดมิยางิ ในภูมิภาคโทโฮคุ โดยการจัดแคมเปญและประชาสัมพันธ์ โปรโมทการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ซึ่งสามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี และมีส่วนลดโปรโมชั่น คาดหวังว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางมากกว่า 10,000 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น 2-3 เท่าตัวในระยะต่อไป
