ยอดบริจาคทะลุ 41 ล. หลัง ‘พี่ตูน-ดารา’ วิ่ง ‘โครงการก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ’ ชี้อยากเห็น ปชช.มีสุขภาพดี
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากได้ร่วมกับศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดง หลายๆคน ที่สลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนกันวิ่งรับบริจาคทุนทรัพย์ ในโครงการวิ่งก้าวคนละก้าว ก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ เพื่อระดมทุนเพื่อช่วยเหลือ 8 โรงพยาบาลขนาดเล็ก หรือ โรงพยาบาลชุมชน ใน 5 จังหวัดภาคอีสานตอนบน ซึ่งเริ่มต้นที่โรงเรียนบ้านโนนหยาดน้ำเกลี้ยง หมู่ที่ 8 ถนนมิตรภาพ ตำบลโนนสะอาด อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี นำโดย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม จนมาถึงบริเวณเส้นชัยสนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อเวลา 14.30 น. ท่ามกลางหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับคณะนักวิ่งโครงการวิ่งก้าวคนละก้าว ก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ
จากนั้นนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม และเหล่าศิลปิน ก็ได้ขึ้นเวทีรับมอบเงินบริจาค ในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ จากภาคเอกชนหลายใหญ่หลายบริษัท ก่อนที่ ตูน บอดี้สแลม จะได้เข้าพบกับนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, พลตรีสมชาย ครรภาฉาย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร เพื่อสรุปผลตอบรับจากโครงการและยอดเงินบริจาคในเบื้องต้นทั้ง 3 จังหวัด ที่ได้มีการจัดโครงการฯ ซึ่งขณะนี้มียอดบริจาคแล้วกว่า 41 ล้านบาท และยังคงมีการบริจาคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งภายหลังจากเข้าพบกับทางผู้ใหญ่ของจังหวัดขอนแก่นแล้ว พี่ตูน บอดี้สแลม ได้ร่วมกับเหล่าศิลปิน นักร้อง นักแสดง และชาวจังหวัดขอนแก่น ออกวิ่งจากจุดสตาร์ท เมื่อเวลา 16.20 น. ที่ บริเวณศาลากลางจังหวัดไปยังเส้นชัยที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ซึ่งตลอดเส้นทางก็ได้มีประชาชนมารอต้อนรับคณะนักวิ่งและร่วมบริจากทุนทรัพย์เข้าโครงการอย่างต่อเนื่อง
นายอาทิวราห์ กล่าวภายหลังจากพบผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นว่า เราอยากทำกิจกรรม เราตั้งใจจะไปทั้ง 5 ภาค เรามีภาคละ 2 วัน ที่จะทำกิจกรรม ซึ่งยอดที่เราก็ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้เพราะเรามี SMS เพียงครั้งละ 10 บาท ให้ประชาชนได้บริจาคเงินจำนวนเล็กๆ ที่หลายคนคิดว่ามันไม่มีค่าพอที่จะช่วยชีวิตใครได้ จริงๆแล้วมันมีค่าพอถ้ามันมารวมกันรวมกัน และเป็นเงินจำนวนขนาดมากพอที่จะไปช่วยเหลือชีวิตใครได้อีก เพื่อซื้ออุปกรณ์ดีๆ บริจาคให้กับโรงพยาบาลอีกหลายๆแห่ง และมีอุปกรณ์จะเป็นเครื่องที่จะไปช่วยอีกหลายๆชีวิต ก็ขอบพระคุณคนไทยทุกคนที่เห็นด้วยกับโครงการ และร่วมด้วยช่วยกันจริงๆ แล้วเราคิดว่าจะปิดรับบริจาคจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้
“จริงๆแล้วนอกจากการบริจาคเงินซื้ออุปกรณ์ให้โรงพยาบาลนั้น เราอยากได้มากกว่าสตางค์ คืออยากเห็นคนออกมาวิ่งตามสวนสาธารณะ เช้าเย็นเห็นจูงลูกจูงหลานมา จากที่จะไปเดินห้างสักวันนึง วันนึงก็ออกมาวิ่งกันสุขภาพดีด้วย และไม่ต้องไปใช้โรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น ได้คุยกับคุณหมอหลายๆท่านก็บอกว่าสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทย ส่วนใหญ่มาจากโรคเบาหวาน ความดัน ซึ่งสามารถป้องกันได้ อยากทำให้คนได้ลุกขึ้นมาออกกำลังกายมากขึ้น มีสุขภาพดีมากขึ้น ผมว่ามันจะดีกว่าการที่เราไปให้แค่สตางค์กับโรงพยาบาล หากเรามีสุขภาพดีมากขึ้นก็จะมีการทำงานที่ดีมากขึ้น และจะเป็นจิ๊กซอว์ตัวเล็กๆที่ประกอบให้คนภาคอีสาน สุดท้ายเป็นคนทั้งประเทศไทยแข็งแรงขึ้น ผมเชื่ออย่างนั้นถ้าทุกคนเชื่อในสิ่งนี้ ทุกคนต้องเชื่อว่าตัวเองเป็นจิ๊กซอตัวนั้นและลุกขึ้นมาทำตามโครงการ เราเน้นไปที่ให้ทุกคนมีแรงบันดาลใจในการทำ เราคิดว่าจะไปทั้ง 5 ภาคเราจะไปภาคใต้ภาค ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และปิดที่ภาคกลางเป็นภาคสุดท้าย” นายอาทิวราห์
นายอาทิวราห์ กล่าวต่อว่า 2 วันที่ภาคอีสานตอนบน ตั้งแต่ที่หนองคาย ลงมาอุดร และขอนแก่น สองข้างทางอย่างที่พี่ๆติดตาม ก็จะเห็นประชาชนชาวบ้านออกมา บางคนทำไร่ ทำนา ก็เดินออกมาเอาเงินมาให้ 20 บาทหรือ 100 บาท น่ารักมากครับทุกคนอยากมีส่วนร่วมทุกคนอยากช่วยเหลือโรงพยาบาลต้องขอบคุณ และเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ
