กรณีตำรวจปราบปรามยาเสพติด(ปส.) ภาค 6 บุกจับ มารดาของนายตำรวจ ระดับสารวัตรคนดังเมืองปากน้ำโพ ขณะเดินทางไปรับพัสดุไปรษณีย์บนที่ทำการไปรษณีย์อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ต้นทางส่งมาจากภาคอีสาน ระบุชื่อผู้รับ นายพิเชษฐ เสาแบน เลขที่ 14/3 หมู่7 ตำบลท่าน้ำอ้อย อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ต้นทางระบุส่งมาจากพนมทวน แซ่หวาง โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดดูพัสดุภายในกล่อง พบว่าเป็นยาอี สีขาว จำนวน 100 กว่าเม็ด จึงควบคุมตัวผู้ต้องหามาตรวจค้นภายในบ้านพักชั้นเดียว ซึ่งระบุว่าเป็นบ้านของนายพิเชษฐ เสาแบน ตามที่ระบุไว้ในพัสดุ จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนขยายผล ยังกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดทันทีนั้น
อ่าน : ปส.จับ ‘แม่สารวัตรคนดังปากน้ำโพ’ สอบขยายผล หลังมารับยาเสพติดที่ส่งทางไปรษณีย์ นครสวรรค์ (คลิป)
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน สว.กก.2 บก.ทท. กองกำกับการ บช.ทท. เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า กรณีข่าวแม่ตนถูกตำรวจ ปส.ภาค 6 จับกุมที่บ้านพักในอำเภอพยุหะคีรีนั้น เป็นเรื่องจริง ตนรับทราบขณะพักอยู่ที่ กทม. โดยได้รับโทรศัพท์จากแม่แจ้งว่า ถูกตำรวจจับกุม โดยมีไปรษณีย์มาส่งของ เมื่อแม่รับของ จากนั้นมีตำรวจมาจับ เปิดกล่องพบยา ไอซ์ 50 กรัม ยาอี 50 เม็ด เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่ขอชี้แจงว่า ที่ผ่านมาถูกขบวนการค้ายาเสพติดกลั่นแกล้งจ้องทำร้ายมาโดยตลอด เนื่องจากตนเคยรับราชการในพื้นที่ภาค 6 เคยกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติด รวมทั้งถูกร้องเรียนจนต้องโดนขัง 7 วัน มาเป็นสารวัตรธุรการตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ หอบหลักฐานต่อสู้คดีวิ่งขึ้นลงแก้ต่างมาเรื่อย ขบวนการยาเสพคิดก็ไม่หยุด ปลอมเฟซ ปลอมสารพัดเพื่อจะเอาผิดตนให้ได้ ตนเหนื่อยมากที่ต้องต่อสู้ขบวนการนี้มา 3 ปีกว่า
พ.ต.ท.พิเชษฐ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันตนได้ผันตัวเองมาค้าขายพระเครื่อง หลวงปู่ทวด เป็นแอดมินเพจ ค้าขายพระเครื่อง ขบวนการนี้ยังปลอมแปลงเอาชื่อ นามสกุล ที่อยู่ตนไปใช้เพื่อส่งของมาที่บ้าน โดยส่งยาเสพติดมาที่บ้าน คงไม่มีตำรวจระดับสารวัตรมาทำอย่างนี้ ซึ่งเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ขณะที่ตนกำลังตัดผมที่ร้านตัดผม สวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ ก็มีโทรศัพท์มาพร้อมพูดคุยเรื่องการโอนเงิน เลขบัญชี และเรื่องรอรับของ รู้สึกแปลกใจคิดว่าน่าจะโทรผิด เพราะการซื้อขายพระไม่มีการส่งของ หรือโอนเงินก่อนแน่นอน จึงพยายามติดต่อกลับหลายรอบว่าโทรผิดหรือเปล่า และพยายามพูดเพื่อซักถามโดยไม่ได้บอกว่าตนคือใคร บอกแต่ชื่อเล่นว่าแย้ในที่สุดปลายสายก็บอกว่า รอรับของแล้วกัน ตนก็ไม่รู้ว่าอะไร สายตัดไปพยายามติดต่อ ก็ติดต่อไม่ได้
พ.ต.ท.พิเชษฐ กล่าวต่อว่า เข้าใจว่าเครือข่ายนี้ส่งของมาจากภาคอีสาน ขยายผลมาจากจังหวัดบุรีรัมย์มา แล้วมาที่บ้านตนได้อย่างไร คงไม่มีใครทำอย่างนั้น ขณะนี้ผมท้อสุดๆ และบ้านที่ส่งของไป ก็นานๆไปครั้ง คุณพ่ออายุ 71 ปีป่วย คุณแม่อายุ 61 ปี คอยดูแลพ่ออยู่บ้าน ขบวนการนี้มันจ้องเล่นงานถึงครอบครัวตนแล้ว ตนจบนักเรียนนายร้อยเป็นหัวหน้าตอนเป็นนายเวร ชีวิตจะเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่ตนเป็นห่วงครอบครัว ชีวิตมีทั้งคนเกลียด คนไม่ชอบ เพราะที่ผ่านมาต่อสู้ให้ตัวเองพ้นผิด ก็ไม่เห็นมีใครยื่นมือมาช่วยพี่น้องสื่อมวลชนขอความเป็นธรรมให้ผมด้วย
“ลองคิดดูว่า นายตำรวจระดับสารวัตร จบนักเรียนนายร้อยมา จะบ้องตื้นให้ส่งยาเสพติดมาที่บ้าน โดยใช้ชื่อตัวเอง ที่อยู่ตัวเองจะเกิดได้อย่างไรชีวิตจากนี้จะเป็นอย่างไรไม่รู้ ต้องเหนื่อยในการแก้คดี คำร้องเรียน ที่ผ่านมาเคยทำคดียาเสพติดขบวนการใหญ่ติดคุกตลอดชีวิต มันจ้องทำลายจองเวรมาโดยตลอด ขณะนี้หันไปทำธุรกิจเช่าพระหลวงปู่ทวด มันยังปลอมบัตร เอาชื่อมาทำลายอีก ตำรวจปราบยาเสพติด มันทำลายถึงครอบครัวผมแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาช่วย ตำรวจสอบปากคำแม่ผมแล้วก็ปล่อยตัว ผมคงรอหมายเรียกไปสอบ ซึ่งต้องเหนื่อยไปแก้ต่าง หาพยานหลักฐานไปสู้แก้ต่างอีก ผมเหนื่อยมาก” พ.ตท.พิเชษฐ กล่าว
