ปลื้ม อุโมงค์เชื่อมผืนป่าเขาใหญ่-ทับลาน พบร่องรอยสัตว์มากมายสัญจรผ่าน

ปลื้ม อุโมงค์เชื่อมผืนป่าเขาใหญ่-ทับลาน พบร่องรอยสัตว์มากมายสัญจรผ่าน

วันนี้ 25 มิถุนายน หลังจากกรมทางหลวงได้ ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีโครงการก่อสร้างอุโมงค์เชื่อมผืนป่าผ่านบนถนนสายสุวินทวงศ์ หรือ สาย 304 (กบินทร์บุรี –ปักธงชัย) ซึ่งถนนสายผ่านระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับ อุทยานแห่งชาติทับลาน มรดกโลก ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นอุโมงค์เชื่อมผืนป่ามรดกโลกแห่งแรกในประเทศที่ก่อสร้างขึ้น เพื่อให้คน ยานยนต์ สัตว์ป่าสัญจรและชีวิตปลอดภัย โดยให้ยานยนต์วิ่งลอดด้านใน ส่วนสัตว์ป่าเดินผ่านบนอุโมงค์ข้ามฝั่งไป-มา ระหว่างผืนป่าดงพญาเย็น เนื่องจากมักเกิดอุบัติเหตุรุนแรงทุกปี

ล่าสุดหลังจากการเปิดใช้อุโมงค์อย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆ นี้ พบจากกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า มีเลียงผา เก้ง กวาง ลิง หมีป่า เดินผ่านด้านบนอุโมงค์จากผืนป่าทับลานไปสู่ป่าเขาใหญ่ และยังพบรอยเท้าสัตว์เสือโคร่ง รวมจำนวน 2 ตัว ที่วนเวียนเตรียมข้ามผ่านบนอุโมงค์ เป็นที่ตื่นเต้นทั่วไปนั้น

นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน กล่าวว่า เพื่อให้สัตว์ป่าปลอดภัยในการข้ามไปมาบนอุโมงค์เชื่อมผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น อุทยานฯทับลานได้เตรียมบุคลากรและพื้นที่ โดยสำรวจสัตว์ป่า ทำการปลูกหญ้า สร้างแหล่งอาหารสัตว์ป่า จัดทำโป่งสัตว์ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของปราจีนบุรีขึ้น

โดยได้มีโครงการเปลี่ยนพรานสร้างไพร ในการร่วมกันปกป้องแผ่นดินสุดท้ายเส้นทางสัตว์ข้ามดังกล่าว โดยจัดโครงการตั้งศูนย์เรียนรู้ขึ้น ที่จุดชมวิวผาเม่น-เขาพอก ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติทับลาน

Advertisement

ซึ่งที่จุดชมวิวผาเม่น- เขาพอก ในอดีตเป็นเส้นทางลาดตระเวนของอดีตผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (ผกค.) ภายหลังมีการบุกรุกพื้นที่ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตรวจยึดกลับคืนมา ส่งผลให้สภาพภูเขากลายเป็นเขาหัวโล้น จึงได้มีโครงการปลูกป่าทดแทน การปลูกพืชเป็นแหล่งอาหารสัตว์ป่า การเฝ้าระวังการล่าสัตว์ป่า ที่ล่าสุดหลังปลูกแหล่งอาหารเพิ่มให้สัตว์ป่า สร้างโป่ง พบว่า มีสัตว์ป่าชุกชุมในพื้นที่ อาทิ โขลงช้างป่ามากกว่า 100 ตัว, ฝูงกระทิงฝูงละ 20 -30 ตัว มากกว่า 5 -6 ฝูง, นกยูงไทยมากเกิน 100 ตัว

ล่าสุดที่พบคือ สัตว์ป่าผู้ล่า พบรอยเท้าของเสือโคร่งรวม 2 ตัวที่จุดชมวิวผาเม่น ซึ่งใกล้เคียงพื้นที่อุโมงค์เชื่อมผืนป่าดงพญาเย็น

Advertisement

โดยการดำเนินโครงการเปลี่ยนพรานสร้างไพร ในการร่วมกันปกป้องแผ่นดินสุดท้ายเส้นทางสัตว์ข้ามดังกล่าว ดำเนินโครงการร่วมกันกับกลุ่มเพื่อนทับลาน อันเป็นกลุ่มองค์กรอนุรักษ์ ที่ดำเนินงานภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนพรานสร้างไพร” เปลี่ยนจากผู้ล่าให้กลายเป็นผู้ปกป้อง

โดยมีองค์กรนักอนุรักษ์ และเครือข่ายจิตอาสาภาคประชาชนเป็นแนวร่วม อาทิ มูลนิธิเพื่อนบูรพา, ชมรมคนรักษ์สัตว์ – ป่า, กลุ่ม ค.คนท่าทาง, กลุ่มผ้าขาวม้าติ่งป่า, กลุ่มฝายมีชีวิต, กลุ่มพรานกลับใจ, กลุ่มชาวบ้านจิตอาสาพัฒนาภูพอก ร่วมกันพัฒนา ทำการปลูกหญ้าสร้างแหล่งอาหารสัตว์ป่า จัดทำโป่งสัตว์ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของปราจีนบุรี ในการดูกระทิง –โขลงช้างป่า –ร่องรอยเสือโคร่ง ก่อนสัตว์ข้ามไป-มา ผ่านบนอุโมงค์เชื่อมดงพญาเย็น พร้อมร่วมอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมร่วม ปลูกหญ้าแหล่งอาหาร,ปลูกต้นไม้สร้างผืนป่า ให้สัตว์ป่า ที่จะก่อให้เกิดการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน เป็นแหล่งชมสัตว์ป่า ฝูงกระทิง, โขลงช้างป่า ของภาคตะวันออก

โดยเฉพาะเปลี่ยนพรานสร้างไพร ที่นำอดีตพราน มาทำข้อตกลง ร่วมอนุรักษ์ ลาดตระเวนป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้, แจ้งเบาะแสหากมีผู้บุกรุก – ล่าสัตว์ป่า, เป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเรียนรู้

นายประวัติศาสตร์ กล่าวอีกว่า สำหรับแหล่งเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติ จุดชมวิวผาเม่น – ภูพอก นี้ ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลาน ไปตามเส้นทางจากแยกถนนสาย 304 (นาดี –กบินทร์บุรี) เข้าไปถนนสายบ้านทุ่งโพธิ์ – อ่างเก็บน้ำห้วยโสมง หรือ นฤบดินทรจินดา เมื่อถึงวัดคลองปลาดุกลายแยกเข้าต่อไปอีกกว่า 12 กม.เศษ ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมก่อสร้าง แต่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้แล้ว หากแล้วเสร็จจะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อการอนุรักษ์ป่าไม้ สัตว์ป่า – ท่องเที่ยว และ สร้างรายได้ให้เกิดกับชุมชนรอบผืนป่าอย่างยั่งยืน

ขณะที่ นายเรวัชร พลจันทึก อดีตนายพรานกลับใจ จากผู้ล่า สู่ผู้ปกป้อง โครงการเปลี่ยนพราน สร้างไพร ในการร่วมกันปกป้องแผ่นดินสุดท้ายเส้นทางสัตว์ข้าม กล่าวว่า ตนทำไร่ ทำสวนตั้งแต่เกิด บนผาเม่น – ภูพอก นับตั้งแต่สมัยรุ่นตา –ยาย อยู่บนนี้ ต้องพึ่งพาตนเอง หากินพออยู่พอกิน อาทิ ล่าสัตว์ ไม่ล่ามาก หากเป็นไก่ตัวเมีย, สัตว์ตัวเมีย ไม่เอา ท้องปล่อยไม่เอา

รุ่นตาสอนถ้ากินอย่างยั่งยืน ต้องรู้ รุ่นหลัง ๆมีกลุ่มพรานเข้ามา มีพรานการค้า, พรานคะนองมือ, พรานเละเทะ หลังจากในหลวง รัชกาลที่ 9 สวรรคต ตนได้เลิกล่าสัตว์ป่า ต่อมาหมีป่าโตโต้ถูกปืนตาย เจ้าหน้าที่เพ่งเล็งเรา ว่าเราทำหรือเปล่า เขาก็มาจับ เขาจับก็จับไปยืนยันว่าเราเลิก เอาอาวุธมาไว้ในกระต๊อป

เจ้าหน้าที่เชิญไปคุยกัน ไปอุทยานฯพร้อมอุปกรณ์ทั้งหมดคุยกับหัวหน้าอุทยานฯตกลงสัญญาใจ ทำงานด้วยกันอนุรักษ์ได้ไหม เราลั่นวาจาเลิกล่าก็โอเค ทำตั้งแต่นั้น ก็เป็นเปลี่ยนเป็นพรานสร้างไพร กิจวัตรประจำวันตอนนี้ลาดตระเวน เอารถจักรยานยนต์ไปกดดันไม่ให้ใครมาล่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image