“นาตารี อาบอบนวด” แปลงโฉม เปิดชื่อใหม่ หึ่งเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยว วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบ (คลิป)

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ถนนรัชดา เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาตารี อาบอบนวด เคยถูกจับกุมคดีค้ามนุษย์ฯ พร้อมทั้งถูกสั่งปิดและถูก ปปง.ยึดทรัพย์ ซึ่งเป็นข่าวโด่งดังในอดีต นั้น

ล่าสุดได้เตรียมเปิดกิจการใหม่ในสถานที่ตั้งเดิม ซึ่งขณะกำลังระดมตบแต่งสถานที่แบบเร่งรีบทั้งกลางวันกลางคืน โดยมีการระดมช่างและผู้รับเหมาจำนวนมาก เพื่อปรับปรุงสถานที่ให้อลังการ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ได้สอบสอบถามช่างคนงานตบแต่งภายใน ปฏิเสธที่จะตอบว่าเป็นใคร ตอบเพียงแค่ว่าเป็นสถานอาบอบนวดที่หรู ระดับ 5 ดาวบนถนนรัชดาโดยใช้ชื่อใหม่ ซึ่งช่างตบแต่งคนดังกล่าว ยังเปิดเผยอีกว่า คาดจะเปิดได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้

แหล่งข่าว ในพื้นที่เปิดเผยว่า สถานที่ดังกล่าวนี้ ถูกตั้งข้อสังเกต วิพากษ์วิจราณ์จากประชาชนในพื้นที่ว่า เคยถูกจับดำเนินคดีเป็นข่าวใหญ่ เป็นคดีดังระดับประเทศ จนถูกปิด ถูก ปปง.ยึดทรัพย์ และจากการที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมคดีดังกล่าว ยังทำให้ประเทศไทยได้รับปรับลดอันดับจากเทียร์ 3 มาเป็นเทียร์ 2 ซึ่งเป็นการปราบปรามค้ามนุษย์ และยึดทรัพย์ จากบรรดาผู้ค้ามนุษย์ รวมมูลค่าเกือบพันล้านบาทในปีนั้น ถ้าหากไม่มีข้าราชการระดับบิ๊กของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องไฟเขียวคงจะไม่กล้า เปิดไม่ได้แน่นอน

แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวอีกว่า ขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบโดยด่วน ว่าสถานที่ดังกล่าว ถูกกฏหมายหรือไม่อย่างไร.

Advertisement

สำหรับคดีนาตารี อาบอบนวด นั้นเมื่อ ปี 2559 ได้เคยถูกชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองบุกช่วยเหลือหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี บังคับให้ค้ากามเผย เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง นายพิริยะ ฉันทดิลก ผอ.สำนักการสอบสวนและนิติการ ว่าที่นายกองเอกวรยุทธ เนาวรัตน์ ผอ.สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (สมาชิก อส.) กระทรวงมหาดไทย จำนวน 100 นาย เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบการดำเนินกิจการของ “นาตารีเอ็นเตอร์เทนเมนท์ อาบอบนวด” ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. หลังได้รับการร้องเรียนว่านำหญิงต่างด้าว อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาแอบแฝงค้าประเวณี

พบเป็นอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น บริเวณชั้นล่างเปิดให้ผู้เข้ามาใช้บริการเลือกหญิงสาว ชั้น 2-5 เปิดเป็นห้องพัก ภายในห้องมีเฟอร์นิเจอร์พร้อมอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ขณะเข้าตรวจสอบพบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากกำลังเข้ามาใช้บริการ เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ยุติกิจกรรมทุกอย่าง และเชิญตัวผู้ใช้บริการออกนอกพื้นที่เพื่อตรวจค้น สามารถควบคุมหญิงให้บริการค้าประเวณีได้ 119 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา โดยพบเป็นเยาวชนชาวเมียนมา อายุต่ำกว่า 18 ปี 7 คน มีหญิงไทย 1 คน ที่เหลือเป็นชาวเมียนมา มีนายพงษ์อนันต์ คณะเชต์ อายุ 44 ปี รับเป็นผู้ดูแล นอกจากนี้ยังตรวจยึดเงินสดจำนวนหนึ่งและบัญชีจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงาน

จากการสอบสวนนายพงษ์อนันต์ คณะเชต์ ให้การว่า เป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าวมานาน 1 ปี มีใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้องและมีหญิงสาวที่ให้บริการค้าประเวณีรวม 400 คน จะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมาทำงาน โดยค่าบริการจะอยู่ที่หลักพันบาท ถึงหลักหมื่นบาท ต่อหนึ่งครั้ง ส่วนสมุดจดรายชื่อและจำนวนเงินการจ่ายส่วยของเจ้าหน้าที่รัฐนั้นตนไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
นายพิริยะ ฉันทดิลก ผอ.สำนักการสอบสวนและนิติการ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกระทรวงมหาดไทยรับแจ้งจากองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศด้านต่อต้านการค้ามนุษย์ “NVADER” แจ้งเบาะแสและร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ว่าสถานที่แห่งนี้มีการนำพาหญิงต่างด้าว อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาแอบแฝงค้าประเวณี เข้าข่ายการค้ามนุษย์ จึงให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เข้าตรวจสอบสืบสวนนานกว่า 3 เดือน ก่อนเข้าล่อซื้อบริการหญิงสาว 3 คน เมื่อพบหญิงสาวเป้าหมายเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม

Advertisement

ซึ่งคดีนี้ เมื่อวันนี้ 19 เม.ย.2560 ศาลอาญาชั้นต้น ถ.รัชดาภิเษก ได้มีคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์ อาบอบนวด “นาตารี” ที่ คม.67/2559 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 2 เป็นโจทก์ฟ้อง นายพงษ์อนัน หรือบอล คณะเขตต์, นายสมประสงค์ หรือจี สร้อยจิต, นายภานรินทร์ หาญพัฒนาเจริญ, นายอะตาผะ แลแม, นายลาภชูลาภ เงินเต็มเปี่ยม และ บ.พี.เอส.เอส. เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยนายสมประสงค์ สร้อยจิต กรรมการผู้จัดการ เป็นจำเลยที่ 1-6 ฐานร่วมกันค้ามนุษย์ฯ ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image