แบงก์ชาติย่องลดปริมาณออกบอนด์ระยะสั้นหวังชะลอเงินเข้า-ดูแลค่าเงินบาท

(เครดิตภาพจาก เอเอฟพี)

นางจันทวรรณสุจริตกุลผู้ช่วยผู้ว่าการสายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กรธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวกรณีการปรับลดปริมาณการออกพันธบัตร(บอนด์) ของธปท. เดือนกรกฎาคม2562 ว่าธปท. พิจารณาการปรับเพิ่มหรือลดวงเงินประมูลพันธบัตรธปท. ตามความเหมาะสมของปริมาณสภาพคล่องและความต้องการของตลาดในแต่ละเดือน

รายงานข่าวจากธนาคารกสิกรไทยรายงานว่าธปท. ได้มีการปรับลดวงเงินการออกบอนด์ระยะสั้นไม่เกิน1 ปีเดือนกรกฎาคม2562 ลงโดยบอนด์อายุ3 เดือนและอายุ6 เดือนลดลงประเภทละ5,000 ล้านบาทต่อสัปดาห์จาก40,000 ล้านบาทลงมาที่35,000 ล้านบาทขณะที่วงเงินการออกบอนด์อายุ1 ปีลดลง10,000 ล้านบาทจาก45,000 ลเานบาทลงมาที่35,000 ล้านบาท ซึ่งแม้จะไม่มีการประกาศโดยตรงว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นมาตรการดูแลค่าเงินบาท ทั้งนี้ การปรับลดวงเงินการออกบอนด์ระยะสั้นดังกล่าวยังเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่มีแรงหนุนให้เงินบาทแตะระดับค่าสุดในรอบ6 ปีครั้งใหม่ที่30.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐยิ่งกระตุ้นให้ตลาดมีความระมัดระวังและรอติดตามสัญญาณที่อาจบ่งชี้ว่าธปท. เตรียมที่จะออกมาตรการมาดูแลความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทยแสดงท่าทีที่เป็นกังวลมากขึ้นต่อสถานการณ์เงินบาทซึ่งแข็งค่าอย่างรวดเร็วและเริ่มไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทย

 “การปรับลดวงเงินการออกพันธบัตรระยะสั้นมักจะเป็นเครื่องมือแรกๆที่ธปท. นำมาใช้เพื่อช่วยชะลอกระแสเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นอย่างไรก็ดีเป็นที่น่าสังเกตว่าผลสุทธิที่มีต่อทิศทางการเคลื่อนย้ายเงินทุนในภาพรวมของนักลงทุนต่างชาติยังคงขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยโดยเฉพาะมุมมองต่อแนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์ฯรวมถึงการปรับพอร์ตการลงทุนเข้าลงทุนในพันธบัตรที่มีอายุยาวขึ้นของนักลงทุนต่างชาติศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าปัจจัยสำคัญที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะใกล้ๆนี้ยังเป็นเรื่องการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนซึ่งจะมีผลกระทบต่อเนื่องไปยังแนวโน้มเศรษฐกิจทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) รวมไปถึงภาพรวมการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ฯและประเมินว่าธปท. น่าจะติดตามทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้ายระยะสั้นและผลกระทบต่อทิศทางเงินบาทอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินความจำเป็นของการออกมาตรการที่มีความเหมาะสมต่อไปในระยะข้างหน้ารายงานข่าวระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image